นักธุรกิจจับตาการเมือง หลังยุบก้าวไกล หวังไม่มีเหตุวุ่นวาย ดีต่อการฟื้นศก.ก่อนส่งปลายปี 67
เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า มุมมองหอการค้าไทยต่อกรณีการยุบพรรคก้าวไกล เมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยศาลรัฐธรรมนูญได้เพิกถอนสิทธิกรรมการบริหารพรรค ระหว่างวันที่ 25 มีนาคม 2564 – 31 มกราคม 2567 โดยไม่สามารถสมัครรับการเลือกตั้ง จดทะเบียนพรรคการเมืองใหม่ เป็นกรรมการบริหารพรรคหรือมีส่วนร่วมในการจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ภายในกำหนด 10 ปี นับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรค ซึ่งเป็นไปตามคำร้องที่ กกต. ได้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยก็ถือว่าเป็นการกลั่นกรองจากพยานหลักฐาน และมีความชัดเจนในมติของศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์
นายสนั่น ระบุอีกว่า อย่างไรก็ตาม แม้การยุบพรรคก้าวไกลและกรรมการบริหารพรรคจะถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง แต่ ส.ส. ยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ โดยจะต้องหาพรรคการเมืองใหม่สังกัด ซึ่งคงต้องติดตามว่าจะเป็นพรรคการเมืองใด และมีเจตนารมย์ใกล้เคียงกับพรรคก้าวไกลเดิมหรือไม่อย่างไร หรือแม้แต่กรณีความเป็นไปได้ในการที่ ส.ส. บางส่วนอาจมีการย้ายไปในพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาล ซึ่งการวิเคราะห์จากภาพที่เห็น คาดว่า ส.ส. ส่วนใหญ่ที่ยังยึดมั่นในอุดมการณ์พรรคก้าวไกลน่าจะยังรวมกลุ่ม และย้ายไปสังกัดพรรคใหม่ด้วยกัน ซึ่งถ้าหากเป็นเช่นนี้ การดำเนินกิจกรรมทางการเมืองของกลุ่ม ส.ส. อดีตพรรคก้าวไกล ยังสามารถที่จะขับเคลื่อนกิจกรรมทางการเมืองได้อย่างต่อเนื่อง
ดังนั้น ในแง่มุมของกระบวนการทางรัฐสภายังสามารถดำเนินการได้ตามปกติ ต้องจับตาว่า ส.ส. บางส่วนจะมีการย้ายไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ส่วนนี้จะเป็นการบ่งชี้ให้เห็นว่าพรรคใหม่นี้ จะยังเป็นพรรคที่มีจำนวน ส.ส. ในสภาฯ มากที่สุดหรือไม่ แต่อย่างไรก็ตาม กระบวนการทางรัฐสภาก็คงเดินหน้าไปตามปกติ ทั้งเรื่องการพิจารณางบประมาณแผ่นดิน ก็ยังสามารถได้ทำได้อย่างต่อเนื่อง
สำหรับเหตุการณ์การเมืองนอกสภา ประเมินเบื้องต้นว่า น่าจะยังไม่มีความรุนแรง หรือ ความวุ่นวาย จากกรณีการประท้วง ที่อาจทำให้ภาพรวมเกิดความกังวล เนื่องจากที่ผ่านมาสัญญาณของการกดดันการทำงานของ กกต. หรือแม้แต่ก่อนการวินิจฉัยของศาลฯ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งเชื่อว่าสถานการณ์ต่าง ๆ น่าจะคลี่คลายเข้าสู่ภาวะปกติ
” หอการค้าฯ จึงประเมินว่าภาพรวมของเศรษฐกิจไทยน่าจะยังเดินหน้าได้ตามปกติ น่าจะมีสัญญาณในการฟื้นตัวได้ในช่วงกลางไตรมาส 4 /2567 ถ้าสถานการณ์ปรับเข้าสู่ภาวะที่เหมาะสมและดีขึ้น ทั้งจากเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย ขณะเดียวกันยังไม่มีเหตุผลในการปรับประมาณการเศรษฐกิจลง เนื่องจากกลไกต่าง ๆ ของภาครัฐก็สามารถเดินหน้าได้ตามปกติ จึงไม่กระทบต่อสถานการณ์เศรษฐกิจที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน “ นายสนั่น กล่าว
ที่มา มติชนออนไลน์
วันที่ 7 สิงหาคม 2567