เอกชน พร้อมทำงานร่วมกับ นายกฯแพทองธาร คนรุ่นใหม่ ชี้ ศก.ต้องเดินหน้า
หอการค้าไทย ยินดีร่วมทำงานกับนายกรัฐมนตรี ถือว่าเป็นคนรุ่นใหม่ เชื่อจากนี้จะมี ครม.เร็วเพื่อบริหารประเทศ ลดสุญญากาศทางการเมือง เดินหน้านโยบายได้ต่อเนื่อง ย้ำจะมีดิจิทัลวอลเลตไหม เอกชนมองต้องรอรัฐบาลเป็นคนตอบ
วันที่ 19 สิงหาคม 2567 นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาของการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตนยินดีที่ประเทศไม่ได้เสียโอกาส ทำให้เกิดสุญญากาศทางการเมืองในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยเชื่อว่าจะมีคณะรัฐมนตรี (ครม.) เกิดขึ้นได้ภายในเร็ว ๆ นี้ และนางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ เป็นสิ่งที่โชคดีของสังคมไทย และเป็นการเปิดให้โอกาสกับทุกคน กับคนรุ่นใหม่ด้วย นี้เป็นสิ่งที่ภาคเอกชนมอง
ขณะเดียวกัน หอการค้าเองให้ความสำคัญกับคนรุ่นใหม่มาโดยตลอด เห็นว่าเรามีกลุ่มทายาทของเจ้าของกิจการทั่วประเทศ 77 จังหวัด หรือกลุ่ม YEC บุคคลเหล่านี้หอการค้าเห็นว่าเป็นบุคคลที่มีความสามารถ มีความพร้อมในทุกด้าน คนรุ่นใหญ่ในหอการค้าก็ให้โอกาส คอยสนับสนุนคนรุ่นใหม่ขึ้นมาเป็นประธานในหอการค้าจังหวัดในหลายพื้นที่แล้ว ปรากฏว่าทำได้ดี ทำให้หอการค้าของแต่ละจังหวัดมีความเข้มแข็งขึ้นกว่าเดิม
เชื่อว่าการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ จะเป็นการใช้เป็นโอกาสเข้ามาทำงานเพื่อประชาชน นอกจากการทำงานให้พรรคร่วมรัฐบาลมีเอกภาพ และ ทางหอการค้าซึ่งเรามีประสบการณ์ในการทำงานกับคนรุ่นใหม่และรุ่นใหญ่ ซึ่งที่ผ่านมาสามารถทำงานร่วมกันได้ จากนี้หอการค้าไทยก็พร้อมจะรวมพลังสนับสนุนการทำงานร่วมกับนายกรัฐมนตรีต่อไปได้
นายสนั่นกล่าวอีกว่า การขับเคลื่อนเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยเฉพาะเรื่องของปากท้องของประชาชนทุกคน หอการค้าไทยอยากจะเห็นนโยบายที่ชัดเจนทำให้เศรษฐกิจไทยดีขึ้น ขณะเดียวกัน ปัญหาค่าเงินบาทที่ตอนนี้แข็งค่าขึ้น ซึ่งมีผลกระทบต่อภาคเกษตรและอาหาร การส่งออก การท่องเที่ยว ก็ต้องการให้เข้ามาดูแลและเพื่อสร้างเสถียรภาพ เพราะเราส่งออกเป็นเงินเหรียญสหรัฐ การท่องเที่ยวก็ยังเกี่ยวเนื่องกับเงินบาท
ทั้งนี้ หวังว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาได้ 37-38 ล้านคน อย่างไรก็ดี หากเราทำงานร่วมกันทั้งภาครัฐและเอกชน จะทำให้การส่งออกน่าจะทำให้เติบโตได้ กว่าปีก่อน 2% ซึ่งยังคงเป็นความหวังของภาคเอกชน
นอกจากนี้ ยังมีในเรื่องของน้ำท่วมทีนายกรัฐมนตรีจะต้องเข้าไปช่วยเหลืออย่างทันท่วงที ซึ่งถือเป็นการทำงานระยะสั้น จะต้องมีการขับเคลื่อนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เร็วที่สุด และจะต้องประกาศออกมาโดยเร็ว
ส่วนโครงการดิจิตอลวอลเลต 10,000 บาท ตอนนี้ไปที่ไหนประชาชนก็ยังคงให้ความสำคัญ และสอบถามว่าจะยังมีอยู่หรือไม่ ส่วนนี้คิดว่าต้องรอคำตอบจากนายกรัฐมนตรี
เมื่อถามว่าจะมีการปรับเปลี่ยนดิจิทัลวอลเลตเป็นเงินสด ซึ่งมองว่าดีกว่าหรือไม่ นายสนั่นกล่าวว่า ทางหอการค้าไทยยืนยันมาตั้งแต่ต้นว่า หากจะมีการแจกเงินให้กับประชาชนก็น่าจะเลือกเอากลุ่มที่เปราะบางก่อน อาจจะใช้เงื่อนไขเดิม เติมเงินในเป๋าตังที่มีอยู่แล้ว ทำให้การแจกเงินทันออกมาได้ภายในปีนี้ประชาชนก็คงจะได้ประโยชน์จากการที่รัฐบาลแจกเงินให้ มีโอกาสจับจ่ายใช้สอย จะทำให้การหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจดีขึ้น
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ
วันที่ 19 สิงหาคม 2567