กระแส "ต้านทุนจีน" หลังสินค้าจีนทะลักเข้าไทย ว่าจะลุกลามถึง "ภาคการท่องเที่ยว" ในไทยด้วยหรือไม่นั้น? เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า กระทรวงฯ พยายามผลักดันให้นักท่องเที่ยวต่างชาติซื้อสินค้าและใช้บริการสถานประกอบการที่เป็นของคนไทย

 

ไม่ใช่ว่าเข้ามาเที่ยวไทยแล้ว แต่เม็ดเงินไม่กระจายไปไหนเลย จึงอยากทำทุกอย่างให้ถูกต้อง! โดยเฉพาะการหารือร่วมกับ “รัฐบาลจีน” เพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องนี้แบบไม่ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ซึ่งกำลังจะครบ 50 ปี ในปี 2568

 

“รัฐบาลไทยเห็นความสำคัญของปัญหาสินค้าจีนทะลัก ที่ผ่านมาได้หารือกับทุกฝ่ายรวมถึงสถานทูตจีนอย่างต่อเนื่องเพื่อแก้ไขปัญหานี้อย่างเป็นรูปธรรม ทางการจีนก็พร้อมให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เพราะเขาเองก็ไม่อยากให้บางสิ่งที่ไม่ดีไม่งามเกิดขึ้นจนส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศ แต่ที่ผ่านมาก็ยังมีบางคนเข้ามาทำเรื่องไม่ค่อยดี ซึ่งการตรวจสอบอาจไม่ทั่วถึง ทำให้ต้องประสานการช่วยตรวจสอบร่วมกันจากทุกฝ่าย”

 

ด้านประเด็น “ทัวร์ทุบตลาด” ทางกระทรวงฯ มีการติดตามปัญหาและแก้ไขอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเข้าไปสำรวจตรวจสอบว่ามีจุดใดแอบแฝงเรื่องการจดทะเบียนใช้กรรมสิทธิ์ต่างๆ ซึ่งมีความสำคัญมาก เพราะกฎหมายบางข้อไม่ได้เอื้ออำนวยให้ชาวต่างชาติเข้ามาประกอบธุรกิจในประเทศไทย จึงต้องขอให้พี่น้องคนไทยช่วยกันสอดส่องดูแล เป็นหูเป็นตาให้หน่วยงานภาครัฐด้วย โดยเฉพาะกรณีชาวต่างชาติใช้คนไทยเป็นนอมินีในการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจบางประเภทที่ไม่สามารถทำเองในประเทศได้ เพราะถือเป็นผลประโยชน์ของชาติ

 

“การมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวไทย ก็ควรได้รับเม็ดเงินหมุนเวียนในประเทศ ตกถึงมือพ่อค้าแม่ขายคนไทยจริงๆ” รมว.การท่องเที่ยวฯ กล่าว

 

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ

วันที่ 21 สิงหาคม 2567