นาย Zsolt Feldman รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเกษตรและการพัฒนาชนบทฮังการี เผยว่าอุตสาหกรรมปศุสัตว์ฮังการีเติบโตอย่างมากในช่วง มกราคม– พฤษภาคม 2567 โดยฮังการีมีปริมาณการผลิตเนื้อสุกรและเนื้อสัตว์ปีกสูงสุดเป็นอันดับสามในสหภาพยุโรป ขณะเดียวกัน ปริมาณการซื้อผลิตภัณฑ์นมสูงสุดเป็นอันดับที่ 4 นอกจากนี้ การส่งออกเนื้อวัวเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 12 และการส่งออกเนื้อแกะเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 25 

 

โดยการเติบโตดังกล่าวเป็นผลจากปัจจัยสําคัญ 2 ประการ ได้แก่ 1) สิ่งแวดล้อมทางการตลาดที่เอื้ออํานวยต่อเกษตกร โดยมีการรักษามาตรฐานของราคาซื้อหรือเพิ่มขึ้น ขณะที่ต้นทุนและระดับราคาอาหารสัตว์ลดลง และ 2) โครงการสนับสนุนของกระทรวงการเกษตรฮังการีที่มุ่งเน้นการพัฒนาการเลี้ยงปศุสัตว์และปรับปรุงให้ทันสมัย ซึ่งตั้งแต่ปี 2564 โครงการพัฒนาชนบทของฮังการีได้สนับสนุนเงินทุนเป็นจํานวนกว่า 491 พันล้านโฟรินท์ (1.2 พันล้านยูโร) เพื่อพัฒนาการทําฟาร์มปศุสัตว์แบบออร์แกนิค และให้กู้ยืมเงินทุนหมุนเวียน 

 

นอกจากนี้ นาย Feldman ย้ําว่าเงินสนับสนุนสําหรับเกษตกรมีการวางแผนการจัดสรรงบประมาณไว้แล้ว ถึงปี 2570 ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างการพัฒนาการเกษตรของฮังการีให้มีความยั่งยืน และขยายโอกาสให้เกษตรกรที่ประกอบอาชีพปศุสัตว์ได้พัฒนาให้ฟาร์มมีความทันสมัยยิ่งขึ้น รวมทั้งมีส่วนร่วมในโครงการเกี่ยวกับสวัสดิภาพสัตว์ (ข้อมูล : ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์

ข้อมูล : สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบูดาเปสต์)

 

ที่มา globthailand

วันที่ 30 สิงหาคม 2567  ]