ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า จากการรายงานสถานการณ์อุทกภัยที่ผ่านมา ซึ่งมี 14 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ เชียงราย พะเยา แพร่ สุโขทัย พิจิตร เพชรบูรณ์ (น้ำเริ่มลดลง) น่าน แม่ฮ่องสอน เลย หนองคาย อุดรธานี มหาสารคาม ตราด และภูเก็ต (น้ำลดลงแล้ว) ซึ่งมีสถานประกอบการได้รับความเสียหาย จำนวน 61 ราย คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 42.1 ล้านบาท

 

กระทรวงฯ ได้มีมาตรการดูแลและเยียวยาผู้ประกอบการที่ประสบภัย ทั้งการสำรวจความเสียหาย การพักชำระหนี้ของลูกหนี้กองทุนเอสเอ็มอีฯ และการจัดเตรียมเจ้าหน้าที่ ทีมวิศวกร หรือช่างชุมชนเข้าช่วยเหลือ ในการปรับปรุง ซ่อมแซม ฟื้นฟู เครื่องจักร ระบบไฟฟ้า ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นทีมช่างที่ได้เข้าร่วมโครงการสร้างผู้ประกอบการจากช่างมืออาชีพ ที่ได้ดำเนินการจัดขึ้น เพื่อส่งเสริมและพัฒนาผู้ที่กำลังเริ่มต้นธุรกิจและผู้ประกอบการในกลุ่มอาชีพช่าง เช่น ช่างแอร์ ช่างซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า ช่างรับเหมาก่อสร้าง ช่างซ่อมรถยนต์ ฯลฯ ผ่านการถ่ายทอดองค์ความรู้ให้สามารถต่อยอดทักษะ ความเชี่ยวชาญเฉพาะตัว ทำให้เกิดทักษะ ความเชี่ยวชาญในการดูแลรักษา ซึ่งจะทำให้การซ่อมแซมทำได้โดยเร็ว

 

“กระทรวงฯ มีเครือข่ายอาชีพช่างที่ผ่านการเข้าร่วมโครงการสร้างผู้ประกอบการจากช่างมืออาชีพ ทำให้ได้ร่วมกันทำความดีช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์อุทกภัยได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพจากผู้เชี่ยวชาญ” ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมกล่าว

 

ดร.ณัฐพล กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้ได้กำชับให้สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด (สอจ.) ในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย เร่งสำรวจความเสียหายของสถานประกอบการโรงงานได้รับผลกระทบว่ามีกี่ราย เสียหายอย่างไรบ้าง และพื้นที่ที่น้ำเริ่มลดลง ขอให้ สอจ.ในพื้นที่ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งเข้าไปให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยต่อไป

 

ที่มา มติชนออนไลน์

วันที่ 2 กันยายน 2567