เปิดภาพ "พายุยางิ" ถล่มเวียดนาม-โรงงาน VinFast เริ่มพบผู้เสียชีวิต-สูญหาย
เปิดภาพ "พายุยางิ" พายุที่รุนแรงที่สุดในเอเชียปีนี้ ถล่มประเทศเวียดนาม ด้วยความเร็วลม 160 กม./ชม.เริ่มพบผู้เสียชีวิตและสูญหายในทะเล ระบุเมืองชายฝั่งไฮฟองของเวียดนาม ซึ่งเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมที่มีประชากร 2 ล้านคน และเป็นที่ตั้งของโรงงานผลิตรถยนต์ VinFast
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า วันนี้ (7ก.ย.) พายุไต้ฝุ่นยางิ มีชื่อมาจากคำในภาษาญี่ปุ่นที่แปลว่าแพะ และกลุ่มดาวราศีมังกร เป็นพายุที่รุนแรงที่สุดในเอเชียปีนี้ได้ขึ้นฝั่งทางตอนเหนือของเวียดนามในวันเสาร์ที่ 7 ก.ย. 67 ตามรายงานของหน่วยงานอุตุนิยมวิทยา โดยมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 คน หลังจากที่พัดถล่มเกาะไหหลำของจีน ซึ่งมีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิต 2 คนและบาดเจ็บอีกหลายสิบคน
ไต้ฝุ่นยางิพัดขึ้นฝั่งบริเวณเขตเกาะทางตอนเหนือของเวียดนามเมื่อเวลาประมาณ 13:00 น. ตามเวลาท้องถิ่น (06:00 น. GMT) โดยมีความเร็วลมสูงสุดถึง 160 กม./ชม. (99 ไมล์/ชม.) ใกล้ศูนย์กลางพายุ ซึ่งอ่อนกำลังลงจากจุดสูงสุดที่ 234 กม./ชม. (145 ไมล์/ชม.) เมื่อพัดผ่านไหหลำเมื่อวันก่อน
รอยเตอร์ส รายงานด้วยว่า มีการพบศพหนึ่งรายใกล้เมืองชายฝั่งฮาลอง ในขณะที่มีผู้สูญหายในทะเลอีกสิบกว่าคน ตามรายงานของสื่อของรัฐเมื่อวันเสาร์ ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน ชายวัย 53 ปีที่ขับขี่รถจักรยานยนต์เสียชีวิตหลังจากต้นไม้ล้มทับในจังหวัดไฮเดือง ทางตอนเหนือ ตามรายงานของสื่อของรัฐ
พายุยางิได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 16 คนในฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นประเทศแรกที่พายุพัดผ่าน หลังจากก่อตัวทางตะวันออกของหมู่เกาะเมื่อต้นสัปดาห์
รอยเตอร์ส ระบุว่า เมืองชายฝั่งไฮฟองของเวียดนาม ซึ่งเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมที่มีประชากร 2 ล้านคน และเป็นที่ตั้งของโรงงานจากบริษัทข้ามชาติและบริษัทผลิตรถยนต์ท้องถิ่นอย่าง VinFast เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากลมที่มีความเร็วสูงถึง 90 กม./ชม.
เมื่อไต้ฝุ่นเคลื่อนตัวเข้าใกล้ เมืองประสบปัญหาไฟฟ้าดับในวันเสาร์ ตามรายงานของทางการ ลมแรงทำให้หน้าต่างอาคารแตก และคลื่นสูงถึง 3 เมตรเมื่อซัดเข้าชายฝั่ง ตามรายงานของผู้สื่อข่าวรอยเตอร์ ต้นไม้ล้ม และแผ่นโลหะมุงหลังคาปลิวออกจากอาคารและลานจอดรถ ตามภาพและวิดีโอในสื่อท้องถิ่น
ก่อนหน้านี้ในไหหลำ ซึ่งมีประชากรมากกว่า 10 ล้านคน พายุทำให้ต้นไม้ล้ม ถนนน้ำท่วม และไฟฟ้าดับในบ้านเรือนกว่า 800,000 หลัง
สนามบินปิด :
เวียดนามอพยพประชาชนเกือบ 50,000 คนออกจากเมืองชายฝั่ง และส่งกำลังทหาร 450,000 นาย ตามรายงานของรัฐบาล
นอกจากนี้ยังระงับการดำเนินงานของสนามบิน 4 แห่งเป็นเวลาหลายชั่วโมงในวันเสาร์ รวมถึงสนามบินนอยไบในฮานอย ซึ่งเป็นสนามบินที่คึกคักที่สุดในภาคเหนือ ทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินมากกว่า 300 เที่ยว
โรงเรียนมัธยมปลายในจังหวัดทางภาคเหนือ 12 จังหวัดก็ปิดทำการเช่นกัน รวมถึงในกรุงฮานอยซึ่งมีประชากร 8.5 ล้านคน
ทางการในเมืองหลวงได้ระงับการขนส่งสาธารณะทั้งรถโดยสารและรถไฟฟ้ายกระดับสองสายในช่วงบ่ายวันเสาร์ ตามรายงานของสื่อของรัฐ หน่วยงานอุตุนิยมวิทยาได้เตือนถึงความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วมหนักในใจกลางเมือง
เหงียน มาญ กวาน อายุ 40 ปี ชาวฮานอยกล่าวว่า "ลมแรงมากพอที่จะพัดคนล้มได้"
ดัง วัน เฟือง อายุ 40 ปีเช่นกัน กล่าวว่า "ผมไม่เคยเห็นพายุแบบนี้มาก่อน คุณไม่สามารถขับรถในลมแรงแบบนี้ได้"
นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่าไต้ฝุ่นกำลังทวีความรุนแรงขึ้น เนื่องจากมหาสมุทรที่อุ่นขึ้นท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ไต้ฝุ่นชันชันได้พัดถล่มทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นพายุที่รุนแรงที่สุดที่พัดเข้าประเทศในรอบหลายทศวรรษ
กรมอุตุฯออกประกาศเตือนฉบับ 17 เกี่ยวกับพายุไต้ฝุ่น "ยางิ" :
กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนภัยฉบับที่ 17 เกี่ยวกับพายุไต้ฝุ่น "ยางิ" ซึ่งได้เคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณเมืองไฮฟอง ประเทศเวียดนาม เมื่อเวลา 16.00 น. ของวันที่ 7 กันยายน 2567 ด้วยความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 167 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็วประมาณ 20 กม./ชม. และคาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนและพายุดีเปรสชันตามลำดับ ส่งผลให้ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมาก พร้อมลมกระโชกแรงบางพื้นที่ในช่วงวันที่ 7-8 กันยายน 2567
นอกจากนี้ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงยังส่งผลให้ทั่วประเทศมีฝนตกหนัก โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ประชาชนควรระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะในพื้นที่ลาดเชิงเขาและพื้นที่ลุ่ม
สำหรับทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน คลื่นสูง 2-3 เมตร อาจสูงถึงกว่า 3 เมตรในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนอ่าวไทยตอนล่างคลื่นสูง 1-2 เมตร และอาจสูงกว่า 2 เมตรในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรมอุตุนิยมวิทยาแนะนำให้เรือเล็กงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 8 กันยายน 2567
ประชาชนสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือโทร. 0-2399-4012-13 และ 1182 ตลอด 24 ชั่วโมง โดยกรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไปในวันที่ 7 กันยายน 2567 เวลา 23.00 น.
ข้อมูล reuters.com กรมอุตุนิยมวิทยา
ที่มา ฐานเศรษฐกิจ
วันที่ 7 กันยายน 2567