ในโอกาสเข้าร่วมการประชุมสุดยอดแห่งอนาคตและการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติสมัยที่ 79 ในนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ นาย บุ่ยแทงเซิน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนามได้ให้การต้อนรับนาย เดวิด แลมมี  รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษและนาย  Ahmed Attaf  รัฐมนตรีต่างประเทศแอลจีเรีย 

 

ในการพบปะกับนาย เดวิด แลมมี  รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ  ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะปฏิบัติข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างเวียดนามกับอังกฤษหรือ UKFTA ใช้โอกาสจากข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก หรือ CPTPP เพื่อผลักดันความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนทวิภาคี ยืนยันสนับสนุนการธำรงสันติภาพ เสถียรภาพ เสรีภาพในการเดินเรือและการบิน แก้ไขปัญหาในทะเลตะวันออกด้วยสันติวิธีบนพื้นฐานของกฎหมายสากล และUNCLOS 1982

 

ส่วนในการให้การต้อนรับนาย  Ahmed Attaf  รัฐมนตรีต่างประเทศแอลจีเรีย นาย บุ่ยแทงเซิน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนามได้ยืนยันว่า เวียดนามให้ความสำคัญต่อความสัมพันธ์มิตรภาพที่มีมาช้านานกับแอลจีเรีย เสนอให้ทั้งสองฝ่ายผลักดันการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทน ประสานงานอย่างใกล้ชิดในฟอรั่มพหุภาคี 

 

โดยเฉพาะสหประชาชาติและขบวนการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด เสนอให้แอลจีเรียอำนวยความสะดวกให้แก่สถานประกอบการเวียดนามที่เข้ามาลงทุนและประกอบธุรกิจในเวียดนาม  ส่วนรัฐมนตรี Ahmed Attaf   ได้สนับสนุนข้อเสนอของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศ บุ่ยแทงเซิน เกี่ยวกับการที่ทั้งสองฝ่ายกระชับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน พลังงาน ปิโตรเลียม การพบปะสังสรรค์ระดับประชาชน

 

ในวันเดียวกัน นาย บุ่ยแทงเซิน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนามได้ร่วมกับนาย Nancy Tempo  รัฐมนตรีต่างประเทศมาลาวี เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามแถลงการณ์ร่วมเกี่ยวกับการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ซึ่งเพิ่มจำนวนประเทศที่เวียดนามสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเป็น 194 ประเทศ

 

ที่มา vovworld.vn

วันที่ 24 กันยายน 2567