ราคาน้ำมันดิบ (8 ต.ค.) ปรับขึ้นต่อเนื่อง จากความขัดแย้งตะวันออกกลาง
ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มต่อเนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ที่ยังคงตึงเครียด และผลกระทบจากพายุเฮอร์ริเคน Milton
วันที่ 8 ตุลาคม 2567 หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ระบุว่า ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นหลังสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางยังคงตึงเครียด โดยกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ได้ยิงขีปนาวุธโจมตีเมือง Haifa ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ 3 ของอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 67 โดยล่าสุดมีข่าวว่าอิสราเอลจะตอบโต้โดยมุ่งเป้าหมายไปที่โครงสร้างพื้นฐานสำหรับการผลิตน้ำมันในกรุงเตหะราน ซึ่งจะกระทบต่ออุปทานน้ำมันถึง 3.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน
โดยราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสซื้อขายเมื่อ 7 ต.ค. 2567 อยู่ที่ 77.14 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +2.76 เหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันดิบเบรนต์อยู่ที่ 80.93 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +2.88 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
ผู้ผลิตน้ำมันบางรายในอ่าวเม็กซิโกของสหรัฐได้ทยอยระงับการผลิตและอพยพคนงานออกจากแท่นขุดเจาะน้ำมัน หลังพายุเฮอร์ริเคน Milton ได้ทวีความรุนแรงมากขึ้นและคาดว่าจะพัดขึ้นฝั่งรัฐฟลอริดาภายในวันพุธที่จะถึงนี้ นอกจากนั้น หน่วยรักษาการชายฝั่งสหรัฐ (U.S. Coast Guard) ได้ระงับการให้บริการท่าเรือสองแห่งในรัฐฟลอริดา ส่งผลกระทบต่อการส่งออกน้ำมันในบริเวณดังกล่าว
กลุ่ม OPEC+ อยู่ระหว่างการพิจารณาการปรับเพิ่มกำลังการผลิตในช่วงเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ ภายหลังมีการปรับลดกำลังการผลิตลงในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเพื่อพยุงราคาน้ำมันท่ามกลางอุปสงค์การใช้น้ำมันที่อ่อนแอ
ราคาน้ำมันเบนซิน :
ราคาน้ำมันเบนซินปรับลดสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตลาดคาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันของจีนจะปรับตัวลดลงจากการสิ้นสุดเทศกาลวันหยุดยาว (Golden Week) ในวันที่ 7 ต.ค. 67 ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจจีนที่ยังคงอ่อนแอและจำนวนการใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้น
ราคาน้ำมันดีเซล :
ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลัง Amsterdam-Rotterdam-Antwerp สิ้นสุด ณ วันที่ 26 ก.ย. 67 ปรับลด 4.6% สู่ระดับ 2.447 ล้านตัน โดยเป็นการปรับลดครั้งแรกในรอบ 8 สัปดาห์
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ
วันที่ 8 ตุลาคม 2567