จับ 5 เทรนด์วัตถุดิบทำอาหารมาแรง แนะเอกชนไทยปรับกลยุทธ์ขยายตลาด
สนง. การค้าในต่างประเทศ ณ กรุงนิวยอร์ก รายงานเทรนผลิตภัณฑ์วัตถุดิบที่ใช้ในการทำอาหาร 5 เทรนมาแรง แนะผู้ประกอบการไทย ติดตามความต้องการของผู้บริโภค ปรับกลยุทธ์การตลาดขยายช่องทางการขาย
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงนิวยอร์ก กรมส่งเสริมการค้าต่างประเทศ รายงานว่า ในช่วงปี 2566 ที่ผ่านมา เป็นปีที่ท้าทายอีกปีสำหรับผลิตภัณฑ์วัตถุดิบที่ใช้ในการประกอบอาหาร ปัจจัยหลักมาจากอัตราเงินเฟ้อและราคาสินค้าที่สูงขึ้น และยังคงส่งผลต่อไปในปี 2567 โดยยอดขายผลิตภัณฑ์วัตถุดิบที่ใช้ในการทำอาหารเพิ่มขึ้น 4.4% ในแง่ของมูลค่าและมีปริมาณเพิ่มขึ้น 1.4% โดยราคาต่อหน่วยที่เพิ่มสูงขึ้นเกิดจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่พุ่งสูงขึ้น
ทั้งนี้ ผู้บริโภคในตลาดต่าง ๆ มีการใช้จ่ายอย่างประหยัดมากขึ้นเมื่อซื้อสินค้าจำเป็น และลดการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น บางคนหันมาเลือกรับประทานอาหารสำเร็จรูปแทนการรับประทานอาหารนอกบ้านเพื่อประหยัดเงิน ในขณะที่บางคนเลือกใช้โปรโมชั่น ร้านค้าลดราคา และเลือกซื้อผลิตภัณฑ์จาก private label เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการทำอาหารเองที่บ้าน
ขณะเดียวกัน แม้ว่าผู้บริโภคจะมีแนวโน้มการใช้จ่ายที่ประหยัด แต่กลับพบว่าผลิตภัณฑ์พรีเมียมกำลังเป็นที่นิยมและประสบความสำเร็จอย่างมากในตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมวดอาหารสำเร็จรูปและซอสปรุงรสต่างๆ แนวโน้มนี้สะท้อนให้เห็นถึงความแตกต่างที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่าย ร้านอาหารแต่ต้องการผลิตภัณฑ์พรีเมียม ผู้บริโภคกลุ่มอื่นๆ ก็ยังหาผลิตภัณฑ์ที่มีราคาไม่แพงด้วยเช่นกัน
ขณะที่ ความต้องการผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพกำลังเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะตัวเลือกที่มีส่วนผสมของน้ำตาลน้อย ไฟเบอร์สูง โปรตีนสูง และไม่มีแลคโตส ซึ่งกำลังเติบโตอย่างมากในหมวดซอสและเครื่องปรุงต่าง ๆ และคาดว่าการฟื้นตัวของผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้จะเกิดขึ้นอย่างช้าๆ ในอนาคต ซึ่ง Euromonitor ได้สรุป 5 เทรนด์ ที่เป็นตัวกำหนดวัตถุดิบที่ใช้ในการทำอาหาร ไว้ดังนี้
1)ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมหลักมาจากพืช อาหารทางเลือกจากพืช เนื่องจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อฉลากที่ระบุว่า “มังสวิรัติ” เพิ่มขึ้นอย่างมาก และผู้บริโภคมีการรับรู้มากขึ้น โดยพบว่าในปัจจุบันผลิตภัณฑ์ในหมวดซอสและเครื่องปรุง เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีฉลากระบุว่าเป็นมังสวิรัติหรือทำมาจากพืชมากที่สุด
2)การผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าทางโภชนาการและดีต่อสุขภาพกำลังเพิ่มขึ้น แม้ว่าผลิตภัณฑ์หมวดที่มักถูกมองมีราคาแพง แต่ผู้บริโภคต้องการตัวเลือกที่ดีต่อสุขภาพ วัตถุดิบในการประกอบอาหารที่มีส่วนผสมที่มีคุณค่าทางโภชนาการเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เทรนด์ความนิยมในด้านสุขภาพเกี่ยวกับการลดน้ำตาล ตั้งแต่ปี 2561 - 2566 จำนวนผู้บริโภคที่เรียกร้องให้ลดน้ำตาลในอาหารเพิ่มขึ้น 53% ทั่วโลก
3)ผลิตภัณฑ์พรีเมียม ในช่วงปี 2565-2566 ที่ผ่านมา เศรษฐกิจโลกมีความไม่แน่นอน ส่งผลให้หลายครัวเรือนไม่สามารถใช้จ่ายในสิ่งที่ไม่จำเป็นได้มากนัก เช่น การซื้อของฟุ่มเฟือยหรือสินค้าราคาแพง แต่ในขณะเดียวกัน ความต้องการผลิตภัณฑ์พรีเมียมกลับเพิ่มขึ้นแสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคยังคงให้ความสำคัญกับสินค้าที่มีคุณภาพสูง
4)ผลิตภัณฑ์ที่มาจากแหล่งที่ยั่งยืนหรือสินค้าที่ถูกผลิตขึ้นโดยคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก ที่ผู้บริโภคเลือกซื้อเพราะเชื่อว่าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ อย่างเช่น ซอส น้ำจิ้ม และเครื่องปรุง ที่ผลิตโดยคำนึงถึงการจัดหาวัตถุดิบจากแหล่งที่มีการจัดการอย่างยั่งยืน ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น จากแหล่งผลิตที่การประมงมีการควบคุมหรือการเกษตรที่ไม่ใช้สารเคมีอันตราย
5)โซลูชันการค้าปลีก แนวทางการค้าปลีกใหม่ ๆ กำลังยกระดับความสะดวกสบายในการซื้ออาหารสำเร็จรูป หลังจากที่ยอดขายออนไลน์พุ่งสูงขึ้นช่วงโควิด-19 ผู้บริโภคเริ่มกลับมาช้อปปิ้งตามร้านค้าอีกครั้ง เพราะต้องการเห็นสินค้าก่อนตัดสินใจซื้อ
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มของวัตถุดิบที่ใช้ในการประกอบอาหารและอาหารของผู้บริโภคนั้น มักจะเปลี่ยนแปลงตามความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งผู้บริโภคเริ่มมองหาสินค้าที่มีราคาย่อมเยาและต้องการตัวเลือกจากหลากหลายแบรนด์ ในขณะเดียวกัน ผู้บริโภคก็ต้องการสินค้าที่มีคุณภาพ ดีต่อสุขภาพและผลิตภัณฑ์ที่ช่วยทำให้การรับประทานอาหารที่บ้านน่าสนใจมากขึ้น และมีกรรมวิธีที่ง่ายต่อการรับประทาน
ทั้งนี้ แนะนำผู้ประกอบการไทยควรติดตามแนวโน้มและความต้องการของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ปรับกลยุทธ์การตลาดและการผลิตให้ตรงตามความต้องการของผู้บริโภค ใช้ช่องทางการขายที่หลากหลาย เช่น ออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคในหลายรูปแบบ และเก็บข้อมูลความคิดเห็นจากลูกค้าเพื่อปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการให้ดียิ่งขึ้น
ที่มา ฐานเศรษฐกิจ
วันที่ 17 ตุลาคม 2567