กรมอุตุฯ เตือนภาคอีสานเฝ้าระวัง-รับมือพายุลูกใหม่ โซนร้อนจ่ามี (TRAMI) คาดเคลื่อนลงสู่ทะเลจีนใต้ 24-25 ต.ค.นี้ ส่งผลทำให้มีฝนตกหนักบางพื้นที่ของไทย โดยเฉพาะจังหวัดนครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี ช่วงวันที่ 26-27 ต.ค. 2567 เตือนผู้ที่จะเดินทางไปประเทศฟิลิปปินส์โปรดตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทาง

 

วันที่ 22 ตุลาคม 2567 เมื่อเวลา 12.00 น. กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าว่า ลักษณะอากาศทั่วไปบริเวณความกดอากาศสูง หรือมวลอากาศเย็นแผ่ปกคลุมบริเวณประเทศจีนตอนล่างแล้ว คาดว่าจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนในคืนนี้ ในขณะที่ร่องมรสุมพาดผ่านบริเวณภาคใต้ตอนบนและภาคตะวันออก

 

ประกอบกับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน มีฝนตกหนักบางแห่ง

 

 

ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม รวมถึงดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย

 

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

 

 

อนึ่ง พายุโซนร้อน “จ่ามี” (TRAMI) ปกคลุมบริเวณด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ คาดว่าจะเคลื่อนตัวลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนบนในช่วงวันที่ 24-25 ต.ค. 67 ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปประเทศฟิลิปปินส์โปรดตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางด้วย

 

 

 

เตือนภาคอีสานฝนตกหนัก 26-27 ต.ค. :

 

นายโกสินธุ์ เสียงวัฒนะ หัวหน้าเวรพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยเพิ่มเติมในรายการอุตุนิยมวิทยารับใช้ประชาชน วันที่ 22 ต.ค. 2567 ตอนหนึ่ง เกี่ยวกับพายุโซนร้อนจ่ามี (TRAMI) ว่า ล่าสุดยังอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิก แต่มีแนวโน้มว่าจะขยับเคลื่อนเข้ามาทางภาคตะวันออกของฟิลิปปินส์มากขึ้น

 

คาดว่าในช่วงรอยต่อของวันที่ 24-25 ตุลาคม 2567 นี้ ตัวพายุจะเคลื่อนผ่านประเทศฟิลิปปินส์ลงทะเลจีนใต้ตอนกลาง และมีแนวโน้มที่จะขยับมาทางทะเลจีนใต้มากขึ้น และมาอยู่ทางด้านชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลางในช่วงประมาณวันที่ 26-27 ตุลาคม 2567 ซึ่งก็จะต้องติดตามสถานการณ์พายุนี้ด้วย เพราะพอลงทะเลจีนใต้จะทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อนกำลังแรงได้

 

สำหรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประเทศไทย นายโกสินธุ์กล่าวว่าจะมีผลกระทบทางพื้นที่ตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย แถบจังหวัดนครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี หรือจังหวัดที่ติดต่อกับสปป.ลาว

 

“ช่วงรอยต่อระหว่างวันที่ 26-27 ตุลาคม 2567 อาจจะต้องเฝ้าระวังสถานการณ์จากพายุนี้ด้วย เพราะว่าจะส่งผลกระทบทำให้มีปริมาณฝนที่เพิ่มขึ้น และบางพื้นที่อาจจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากเกิดขึ้นได้ ต้องติดตามและเฝ้าระวังกันไว้ก่อน” นายโกสินธุ์กล่าว

 

สำหรับชื่อของพายุโซนร้อน “จ่ามี (TRAMI)” หมายถึง ชื่อดอกไม้ชนิดหนึ่งในสกุลดอกกุหลาบ ตั้งชื่อโดยสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม เป็นพายุลูกที่ 20 จากการนับจำนวนพายุของ RSMC โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น)

 

พยากรณ์อากาศ 12.00 น. วันนี้ ถึง 12.00 น. วันพรุ่งนี้ :

 

ภาคเหนือ :

 

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง

บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตาก สุโขทัย และกำแพงเพชร

อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออก ความเร็ว 10-15 กม./ชม.

 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ :

 

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง

ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ และสุรินทร์

อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

 

ภาคกลาง :

 

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง

บริเวณจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม อุทัยธานี สุพรรณบุรี

สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม

อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

 

ภาคตะวันออก :

 

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง

บริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส

ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

 

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) :

 

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง

บริเวณจังหวัดเพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์

อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส

ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

 

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) :

 

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง และพังงา

อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส

ตั้งแต่จังหวัดพังงาขึ้นมา : ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ตั้งแต่จังหวัดภูเก็ตลงไป : ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

 

กรุงเทพฯและปริมณฑล :

 

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง

อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

 

ออกประกาศ 22 ตุลาคม 2567

 

ที่มา ประชาชาติธุรกิจ

วันที่ 22 ตุลาคม 2567