หาน จื้อเฉียง ทูตจีนประจำประเทศไทย กล่าวปาฐกถาหัวข้อ "เศรษฐกิจจีนในมุมมองใหม่" มั่นใจเศรษฐกิจจีนสดใส ยืนยันจีนมองไทยเป็นเพื่อนบ้านที่ดี รับปากจีนจะตรวจสอบพฤติกรรมผิดกฎหมายของชาวจีนอย่างเข้มงวดขึ้น ขอไทยอย่ามองคนจีนและทุนจีนแบบเหมารวมกับ "จีนเทา"

 

วันที่ 24 ตุลาคม 2024 หาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “เศรษฐกิจจีนในมุมมองใหม่” ในการอบรมหลักสูตร “มองจีนยุคใหม่ ความท้าทายที่สื่อไทยควรรู้” ปีที่ 6 จัดโดยสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทยให้การสนับสนุน

 

หาน จื้อเฉียง เริ่มด้วยการบรรยายว่า จีนมีระบบการปกครองสังคมนิยมในรูปแบบของตัวเอง ไม่ใช่สังคมนิยมรัฐสวัสดิการแบบชาติตะวันตก หรือแบบสหภาพโซเวียต แต่เป็นสังคมนิยมที่ผนวกรวมเข้ากับวัฒนธรรมจีน และดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจด้วยกลไกตลาด การปกครองของจีนจึงมีทั้งส่วนที่เหมือนและต่างจากการปกครองของชาติอื่นๆ

 

หาน จื้อเฉียง บรรยายต่อว่า หลายปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจโลกเผชิญกับความถดถอย เช่นเดียวกันกับจีน อย่างไรก็ตาม เพื่อที่จะส่งเสริมการพัฒนาทางเศรษฐกิจ เมื่อไม่นานมานี้รัฐบาลจีนจึงออกมาตรการสำคัญ เช่น นโยบายการเงินจากธนาคารกลาง ในการลดอัตราดอกเบี้ยและอัตราเงินสำรองขั้นต่ำของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ไม่เพียงเท่านั้น รัฐบาลจีนยังออกมาตรการเพิ่มเติมเพื่อบรรเทาภาระของรัฐบาลท้องถิ่น ซึ่งทุกมาตรการที่ออกมามีความสอดคล้องกันตามเป้าหมายการกระตุ้นเศรษฐกิจ

 

หาน จื้อเฉียงกล่าวว่า สื่อตะวันตกมักรายงานว่าเศรษฐกิจจีนจะล่มสลายเข้าสักวัน ซึ่งตัวเขาเองได้ยินเช่นนี้ซ้ำ ๆ มา 40 ปีแล้วตลอดการทำงานในกระทรวงการต่างประเทศ 

 

อย่างไรก็ตาม หาน จื้อเฉียง มองว่าเศรษฐกิจจีนมีความสดใสจากปัจจัยที่ได้เปรียบหลายด้าน เนื่องจากจีนเป็นประเทศที่มีอุตสาหกรรมการผลิตใหญ่ที่สุดในโลก และยังมีจำนวนผู้บริโภคในตลาดมากที่สุดอีกด้วย ที่เป็นเช่นนี้ได้เพราะจีนมีการวางแผนมาอย่างยาวนาน ซึ่งเป้าหมายจะยังคงดำเนินต่อไปจนถึงปี 2050

 

ด้านความสัมพันธ์และการค้ากับไทย เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทยกล่าวว่า จีนมองว่าไทยเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อจีน และได้พิสูจน์การร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาตลอด จีนหวังอย่างยิ่งว่าพัฒนาการทางเศรษฐกิจของจีนจะมีส่วนช่วยในการพัฒนาเศรษฐกิจของไทยด้วย ในเรื่องการค้าขายกับไทย สินค้าจีนที่กระทบต่อผู้ประกอบการรายย่อยของไทยมีไม่ถึง 20% บริษัทส่วนใหญ่ของจีนทำการผลิตในภาคอุตสาหกรรม และสร้างงานให้คนไทยกว่า 90% ทั้งยังช่วยสร้างห่วงโซ่อุปทานในไทยอีกด้วย 

 

สำหรับพฤติกรรมที่ผิดกฎหมายของชาวจีนนั้น เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทยกล่าวว่า ทางการจีนจะช่วยตรวจสอบให้เข้มงวดขึ้น และให้ความเห็นว่าไทยไม่ควรนำปัญหาของบุคคลบางกลุ่มมาเหมารวมจนส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

 

ทั้งนี้ ในปี 2025 จะครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตของไทยและจีน ซึ่งทูตหาน จื้อเฉียง หวังว่าไทยกับจีนจะสามารถพัฒนาเพิ่มเติมได้อีก และได้เชิญชวนให้ชาวไทยไปเยือนประเทศจีน

 

ในช่วงการตอบคำถามจากนักข่าว หาน จื้อเฉียง กล่าวว่าจีนยินดีร่วมมือกับไทยในการตรวจสอบการค้าที่กระทำผิดกติกาการแข่งขัน เกี่ยวกับปัญหาสินค้าจีนทะลักท่วมตลาด ทั้งยังกล่าวแสดงความยินดีที่ไทยได้เป็นหุ้นส่วนอย่างเป็นทางการของกลุ่มบริกส์ (BRICS) พร้อมทั้งกล่าวว่าจะช่วยเหลือไทยอย่างเต็มที่ในการเข้าร่วมเป็นสมาชิกของกลุ่ม BRICS

 

ที่มา ประชาชาติธุรกิจ

วันที่ 24 ตุลาคม 2567