กกร. เชื่อโมเมนตัมลงทุน ท่องเที่ยว ส่งผล GDP ไทยปี’68 โตได้สุด 4%
กกร.ประกาศย้ำในเวที “CEO ECONMASS Awards 2024” ท่องเที่ยว ลงทุน โมเมนตัมปี 2567 ส่งผลบวกไทยจะโตได้ถึง 4% ในปี 2568 ได้โอกาสทั้งจากพลังงานสะอาด BCG เชื่อไทยยังได้อานิสงส์จากการเข้าร่วม OECD-กลุ่ม BRIC จี้แพ็กเกจแก้หนี้จากรัฐบาล
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวภายในงาน “CEO ECONMASS Awards 2024” และงานสัมมนา “เศรษฐกิจไทย โอกาส และความท้าทายในปี 2568” จัดโดยสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจว่า หนี้ครัวเรือนยังคงเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง แม้ว่าล่าสุดจะลดลงมาอยู่ที่ 89.6% แล้วก็ตาม แต่เป็นผลมาจาก GDP เพิ่มขึ้น และการจำกัดวงเงินในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน แต่มูลค่าหนี้ยังคงเดิม
ในขณะที่ตัวเลขผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนสิงหาคม 2567 ติดลบ 1-2% ซึ่งล่าสุด สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยตัวเลขเดือนกันยายน 2567 ก็ติดลบเช่นกัน สะท้อนถึงความสามารถในการแข่งขัน บวกกับปัญหาการถูกสินค้านำเข้าจากต่างประเทศดัมพ์ตลาดที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 10-20% กระทบภาคการผลิต 25 กลุ่มอุตสาหกรรม
แต่ไทยยังคงได้รับอานิสงส์จากภาคการท่องเที่ยวที่สามารถสร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างประเทศ 1.8 ล้านล้านบาท จาก 36 ล้านคน และยังเห็นเม็ดเงินจากการลงทุนผ่านยอดขอบีโอไอสูงถึง 7.2 แสนล้านบาท สูงสุดในรอบ 10 ปี ปี 2567 จึงคาดว่า GDP จะอยู่ที่ 2.6-2.8% ช่วงที่เหลืออีก 2-3 เดือน หากโมเมนตัมยังคงเป็นลักษณะนี้ เชื่อว่าจะส่งผลไปถึงปี 2568 ที่ไทยจะได้โอกาสมากขึ้นจากการลงทุน
โดยเฉพาะในกลุ่มที่เป็นเมกะเทรนด์ที่ทั่วโลกเน้นไปเรื่องของความยั่งยืน เช่น พลังงานสะอาด BCG ซึ่งจะนำไปสู่ Green Industry และสู่ Net Zero ดังนั้นอุตสาหกรรม S-curve และ BCG จะเป็นโอกาสที่ดีของไทย และไทยจะต้องผลิตสินค้าที่โลกต้องการ ผลิตสินค้าที่ไม่ซ้ำกับจีน โดยใช้เรื่องของ Bio นวัตกรรม และ R&D มาเป็นตัวแข่ง นี่คือโอกาสของไทยที่จะแข่งขันในเวทีโลกได้
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานคณะกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า GDP ไทยปี 2567 จะถึง 3% หากไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม จึงทำให้ GDP หดตัวโตได้ในกรอบ 2.6-2.7% ในขณะที่ปี 2568 มองว่า GDP สามารถโตได้ 3.5-4% ซึ่งไทยจะได้โอกาสจากการเข้าร่วม องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) โดยเฉพาะโอกาสจากการเข้าร่วมกลุ่มประเทศ BRIC (บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน) ทั้งเรื่องการค้า การลงทุน และความร่วมมือในการพัฒนาประเทศ
อย่างไรก็ตาม การที่ไทยเป็นประเทศที่เป็นกลาง ไม่ว่าจะมีสงครามระหว่างประเทศจากฝ่ายใดก็ตาม เช่นเดียวกับที่ไทยต้องใช้โอกาสในการเป็นคู่ค้าที่ดีกับจีน ซึ่งสิ่งที่รัฐบาลไทยควรทำคือการสร้างความเชื่อมั่น และต้องชัดเจนกับทุกนโยบาย เช่น การสนับสนุนเรื่องซอฟต์พาวเวอร์
นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า ประเทศไทยไม่สามารถฝืนการแข่งขันได้ ทุกองค์กรต้องปรับตัว ขณะเดียวที่ไทยจะได้โอกาสจากการเข้ามาลงทุนของต่างชาติ โดยไทยจะต้องเตรียมพร้อมในเรื่องของการเตรียมคน โครงสร้างพื้นฐาน
นอกจากนี้ รัฐบาลต้องเร่งออกมาตรการแก้หนี้ครัวเรือน เพราะเป็นสิ่งที่เหนี่ยวรั้งการเติบโตของเศรษฐกิจ ซึ่งแน่นอนว่าจะแพ็กเกจแก้หนี้ครัวเรือนจะแตกต่างจากเดิมจากเป็นเทศกาล เป็นการแก้โครงสร้างและแก้ไขต้นทุนทางการเงิน โดยเฉพาะในกลุ่มเปราะบาง และ SMEs ในขณะที่ GDP ปี 2567 คาดว่าจะอยู่ที่ 2.7-2.8% ไม่มีลุ้นเพิ่มอีกในช่วงไตรมาสสุดท้าย
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ
วันที่ 30 ตุลาคม 2567