"นฤมล" หารือเอกอัครราชทูตจีน กระชับความสัมพันธ์ด้านเกษตร-ปศุสัตว์ไทย
"รมว.นฤมล" หารือเอกอัครราชทูตจีน กระชับความสัมพันธ์ด้านเกษตร ขยายตลาดส่งออก“ผลิตภัณฑ์จากผึ้ง”เพิ่มโอกาสการค้าภาคปศุสัตว์ไทย
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ตนพร้อมด้วย นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้หารือร่วมกับ นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย (H.E. Mr. Han Zhiqiang) โดยมี นายถาวร ทันใจ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม เพื่อหารือถึงความร่วมมือด้านการเกษตร และสร้างความสัมพันธ์ทางการทูตไทย - จีน ที่จะครบรอบ 50 ปี ในปี 2568
นางนฤมล กล่าวว่า การหารือวันนี้ทั้งสองฝ่ายได้มีการแลกเปลี่ยนนโยบายที่สำคัญระหว่างกัน โดยฝ่ายไทยมีนโยบายในการขับเคลื่อนภาคการเกษตร ที่มุ่งเน้นการยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกร ให้มีความอยู่ดีกินดี มีรายได้เพิ่มขึ้น พัฒนาการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยมาช่วยในการผลิตสินค้าเกษตร ส่งเสริมการผลิตสินค้าเกษตรมูลค่าสูง
ขยายตลาดสินค้าเกษตรที่มีอยู่เดิมและเพิ่มตลาดใหม่ ๆ ทั้งในและต่างประเทศ โดยใช้แนวทาง ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้
ทั้งนี้ ยังได้หารือถึงเส้นทางการขนส่งสินค้าเกษตรจากไทย ไปจีน ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งสินค้าเกษตรผ่านเส้นทางรถไฟไทย – ลาว - จีน
รวมทั้งการเปิดด่านท่าเรือกวนเหล่ยของจีนอย่างเป็นทางการ เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ถือเป็นช่องทางสำคัญในการขนส่งสินค้าเกษตร ทำให้ไทยสามารถมีช่องทางส่งผลไม้ไปจีนเพิ่มขึ้น
รวมถึงขอให้จีนช่วยผลักดันสินค้าเกษตรไทยที่มีคุณภาพ เพื่อส่งเสริมเกษตรกรไทย ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีรายได้ที่มั่นคง และยั่งยืน และทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกัน ที่จะใช้กรอบความร่วมมือที่มีอยู่ในการส่งเสริมการดำเนินความร่วมมือทางวิชาการ และฝ่ายจีนพร้อมที่จะสนับสนุนโครงการความร่วมมือทางวิชาการให้กับฝ่ายไทยอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ฝ่ายไทยยังได้ผลักดันการลงนามในพิธีสารว่าด้วยความปลอดภัยอาหาร ด้านการสัตวแพทย์ และการปกป้องพืช เพื่อการส่งออกผลิตภัณฑ์จากผึ้งจากประเทศไทยไปประเทศจีน และติดตามความคืบหน้าการเปิดตลาดสินค้าเกษตร เช่น โคมีชีวิต สินค้าพืช และประมง
ทั้งนี้ นางนฤมล มีกำหนดการเดินทางไปยังนครคุณหมิง (Kunming) เพื่อเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีเกษตรประเทศ ในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ครั้งที่ 3 (GMS Agricultural Ministers’ Meeting) ระหว่างวันที่ 19 - 22 พฤศจิกายน 2567
จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นโอกาสอันดีที่ทั้งสองฝ่าย จะได้มีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับฝ่ายจีน เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านวิชาการและการค้า และอาจเป็นโอกาสในการลงนามในพิธีสารดังกล่าว ซึ่งฝ่ายจีนตอบรับที่จะสนับสนุนให้มีการลงนามต่อไป
สำหรับสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นประเทศคู่ค้าสินค้าเกษตรอันดับที่ 1 ของไทย ในระหว่างปี 2564 - 2566 มีสัดส่วนการค้าสินค้าเกษตร ร้อยละ 22.11 ของมูลค่าการค้าสินค้าเกษตรของไทยกับโลก
โดยในปี 2564 มีมูลค่าการค้าสินค้าเกษตร 447,403 ล้านบาท และมีมูลค่าเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในปี 2565 และ 2566 เป็นมูลค่า 499,166 ล้านบาท และ 543,962 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าการค้าสินค้าเกษตรเฉลี่ยปีละ 496,844 ล้านบาท มีอัตราการค้าเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 10.26 ต่อปี
สำหรับสินค้าส่งออกสำคัญ 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.ทุเรียนสด 2.มันสำปะหลังฝาน หรือ ทำเป็นเพลเลต 3.สตาร์ชทำจากมันสำปะหลัง 4.ยางธรรมชาติที่กำหนดไว้ในทางเทคนิค และ 5.ผลไม้และลูกนัตอื่นๆ
ที่มา ฐานเศรษฐกิจ
วันที่ 31 ตุลาคม 2567