ขณะนี้ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ช่วงฤดูการท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น) รัฐบาลจึงอัดฉีดภาคการท่องเที่ยวเต็มสูบ เพื่อหวังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจส่งท้ายปี 2567

 

สิ่งที่สำคัญที่ถือเป็นประตูบานแรกโชว์ภาพลักษณ์ประเทศ คือ “สนามบิน” โดยไทยมีเป้าหมายเป็นฮับการบินของเอเชีย

 

กระทรวงคมนาคม โดย บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. จึงเร่งพัฒนาสนามบินไทยในเครือรวม 6 แห่ง เพื่อสร้างภาพลักษณ์ประทับใจชาวไทยและชาวต่างชาติ

 

ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.) ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) และท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.)

 

ทอท.ภายใต้การบริหารของ กีรติ กิจมานะวัฒน์ ได้พัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิให้เป็นสากลยิ่งขึ้น ด้วยการเปิดอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT-1) ปี 2566 พร้อมนำระบบรถไฟฟ้าเช่นเดียวกับสนามบินที่ต่างประเทศรับส่งเชื่อมต่ออาคารผู้โดยสารหลัก

 

ล่าสุดนำเทคโนโลยีระบบพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล (Automated Biometric Identification System: Biometric) เข้ามาเริ่มใช้วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 สำหรับผู้โดยสารขาออกภายในประเทศ ตั้งเป้าเปิดใช้เต็มรูปแบบรวมทั้งผู้โดยสารขาออกต่างประเทศ วันที่ 1 ธันวาคม 2567 ให้อำนวยสะดวกและประหยัดเวลาให้กับผู้โดยสาร หวังสร้างความประทับใจ เพื่อกระตุ้นนักท่องเที่ยวเข้าไทยมากขึ้น

 

สำหรับปีงบประมาณ 2568 ทอท.คาดว่าจะมีผู้โดยสารกว่า 129.97 ล้านคน เพิ่มขึ้น 8.95%

 

ทอท.จึงเร่งปรับโฉมสนามบินในเครือต่อเนื่อง พร้อมผุดโปรเจ็กต์พัฒนาสนามบินไทย เร่งสร้างอาคารผู้โดยสารเพิ่ม ปรับปรุงการให้บริการผู้โดยสาร เพื่อเพิ่มศักยภาพไทยสู่ผู้นำด้านฮับการบินของเอเชียตามที่รัฐบาลตั้งเป้าหมายไว้

 

ผลงานหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร รอติดตาม!!

 

ที่มา มติชนออนไลน์

วันที่ 5 พฤศจิกายน 2567