จีน ซึ่งเป็นมหาอำนาจคู่แข่งของสหรัฐอเมริกา แสดงความหวังว่าจะดำรงอยู่ร่วมกับสหรัฐอเมริกาอย่างสันติ ในห้วงเวลาที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีและผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน กำลังเข้าใกล้สู่ชัยชนะอย่างเด็ดขาดเหนือนางคามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีและผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต

 

โดยนางเหมา หนิง โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน กล่าวในระหว่างแถลงข่าวตามปกติ ที่กรุงปักกิ่ง ในวันที่ 6 พฤศจิกายนว่า เราจะยังคงแนวทางและจัดการกับความสัมพันธ์จีน-สหรัฐบนหลักการของความเคารพซึ่งกันและกัน การดำรงอยู่ร่วมกันโดยสันติ และความร่วมมือที่ได้ประโยชน์เท่าเทียมกันทั้งสองฝ่ายต่อไป

 

“นโยบายของเราต่อสหรัฐอเมริกาสอดคล้องกัน” โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนกล่าว โดยปฏิเสธที่จะให้ความเห็นโดยตรงถึงความเป็นไปได้อย่างยิ่งว่าทรัมป์ได้รับเลือกตั้งกลับเข้ามาอีกครั้ง แต่กล่าวเพียงว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เป็นกิจการภายในของสหรัฐ เราเคารพตัวเลือกของชาวอเมริกัน

 

“หลังมีการประกาศผลการเลือกตั้งสหรัฐอย่างเป็นทางการแล้ว เราจะจัดการกับเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้องซึ่งสอดคล้องกับแนวปฏิบัติตามปกติต่อไป” โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนกล่าวเพิ่มเติม เมื่อถูกถามว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จะโทรศัพท์ไปร่วมแสดงความยินดีกับทรัมป์หรือไม่

 

ทั้งนี้การเลือกตั้งสหรัฐ เป็นที่จับตาอย่างใกล้ชิดในประเทศจีน โดยบนโซเชียลมีเดียยอดนิยมของจีนอย่าง เว่ยป๋อ มีประเด็นหลายเรื่องเกี่ยวกับการเลือกตั้งทรัมป์ขึ้นเทรนด์บนแพลตฟอร์มเว่ยป๋อ โดยมีความเห็นหนึ่งโพสต์ว่า “ทรัมป์ ยินดีด้วย! มุ่งสร้างประเทศที่สวยงามของคุณต่อไปและหยุดคิดที่จะแทรกแซงประเทศอื่นซะ”

 

มีอีกความเห็นในประเด็นด้านการค้า ที่มีผู้โพสต์บนบัญชีอินสตาแกรมว่า “สงครามการค้าเริ่มต้นขึ้นแล้ว” ยังมีที่โพสต์ “ด้วยการเก็บภาษีเพิ่มเติมอย่างน้อย 20% พวกที่อยู่ในการค้าต่างประเทศควรพิจารณาเปลี่ยนงานโดยเร็วที่สุดได้เลย!”

 

วันเดียวกัน ทางการรัสเซียแถลงว่าจะตัดสินการเป็นประธานาธิบดีของทรัมป์จากย่างก้าวที่เป็นรูปธรรม โดยนายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกเครมลิน หรือทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซีย กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เครมลินจะตัดสินทรัมป์จากการกระทำ

 

“เราจะสรุปผลตามย่างก้าวและคำพูดที่เป็นรูปธรรม” โฆษกเครมลินกล่าว ทั้งยังกล่าวด้วยว่าเขาไม่ทราบว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย มีแผนที่จะแสดงความยินดีกับทรัมป์เรื่องการเลือกตั้งหรือไม่ โดยชี้ว่าเนื่องจากสหรัฐอเมริกายังคงเป็น “ประเทศที่ไม่เป็นมิตร” และความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศอยู่ในระดับต่ำครั้งประวัติศาสตร์ พร้อมกล่าวด้วยว่า เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าวาทกรรมของทรัมป์ที่จะยุติสงครามยูเครนนั้น จะแปรเปลี่ยนเป็นความจริงได้หรือไม่

 

“เราพูดหลายครั้งแล้วว่าสหรัฐสามารถยุติความขัดแย้งได้ สิ่งนี้ไม่สามารถทำได้ชั่วข้ามคืน แต่สหรัฐสามารถเปลี่ยนแนวทางนโยบายต่างประเทศ สิ่งนี้จะเกิดขึ้นหรือไม่ เราจะรอดูหลัง (พิธีรับตำแหน่งประธานาธิบดีใน) เดือนมกราคม” โฆษกทำเนียบเครมลินกล่าว

 

ที่มา มติชนออนไลน์

วันที่ 6 พฤศจิกายน 2567