"เวียดนาม" พร้อมเทขาย "ดอลลาร์" เพื่อรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจและ "เงินดอง" ทรุดอ่อนค่าหลังทรัมป์คว้าชัย ล่าสุดผู้ว่าแบงก์ชาติลดค่าเงินดองต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

 

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานอ้างถึง เหงียน ถิ ห่ง (Nguyen Thi Hong) ผู้ว่าการธนาคารกลางเวียดนาม (SBV) แถลงต่อสมาชิกรัฐสภาวันนี้(11 พ.ย.)ว่า ธนาคารกลางเวียดนาม พร้อมจะขาย “เงินดอลลาร์สหรัฐ” เพื่อรักษาเสถียรภาพของค่าเงินดองในตลาดท้องถิ่นและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจมหภาค

 

SBV ระบุว่าธนาคารกลางกำลังพยายามควบคุมอัตราเงินเฟ้อพร้อมกับรักษาเสถียรภาพของค่าเงินดอง และพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ  รวมทั้งต้องการผลักดันให้ลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลงอีก "แต่ถ้าทำมากเกินไป ตลาดเงินตราต่างประเทศและอัตราแลกเปลี่ยนจะได้รับผลกระทบ"

 

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 7 พ.ย. SBV ได้ตัดสินใจ กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนที่ 24,283 ดองต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับที่อ่อนค่าที่สุด นับตั้งแต่ปี 2548 หลังจากที่ ค่าเงินดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นอย่างมากตามชัยชนะใน การเลือกตั้งสหรัฐ ของ “โดนัลด์ ทรัมป์” ซึ่งส่งผลกระทบต่อค่าเงินสกุลอื่นๆ ทั่วโลก รวมถึงค่าเงินดองของเวียดนามที่อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง

 

ขณะนี้ ค่าเงินดองเวียดนามเคลื่อนไหวที่ระดับ 25,300 ดองต่อดอลลาร์  ห่างจากจุดต่ำสุดในประวัติการณ์เพียง 0.7% โดยข้อมูลจาก Bloomberg ระบุว่าเงินดองอ่อนค่าลงราว 4% ในปีนี้

 

นอกจากนี้ เหงียน ถิ ห่ง ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้เสียที่เพิ่มขึ้น โดยระบุว่าปัจจุบันมีสินเชื่อด้อยคุณภาพคิดเป็น 4.55% ของสินเชื่อทั้งหมดในระบบธนาคาร นอกจากนี้ สินเชื่อรวมของประเทศเมื่อเทียบกับ GDP ยังสูงเกินกว่า 120% ซึ่งถือเป็นระดับที่สูงมาก ทำให้ธนาคารโลกส่งคำเตือนถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นต่อเสถียรภาพทางการเงินเวียดนาม

 

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ

วันที่ 11 พฤศจิกายน 2567