รมว.ต่างประเทศ กระชับความสัมพันธ์ญี่ปุ่น-นิวซีแลนด์ ด้านการค้า การลงทุน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ใช้เวทีเอเปค กระชับความสัมพันธ์กับประเทศญี่ปุ่นและ นิวซีแลนด์ เพื่อประโยชน์ด้านการค้า การลงทุน ระหว่างกัน
นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เผยว่า เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ประจำภูมิภาคอเมริกา ณ นครลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา
โดยการประชุมดังกล่าว ถือเป็นครั้งแรกที่นายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายและแนวทางด้านการต่างประเทศ แก่ บรรดาเอกอัครราชทูต กงสุลใหญ่ และทีมประเทศไทยประจำภูมิภาคอเมริกา ใน 2 ประเด็นสำคัญ คือ นโยบายที่จับต้องได้ และความร่วมมือแบบทวิภาคีและพหุภาคี และได้เน้นย้ำเรื่องของยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์
เนื่องจากในหลายภูมิภาคของอเมริกา ให้ความสนใจในวัฒนธรรม และอารยธรรมของประเทศไทย ทั้งด้านอาหาร มวยไทย ภาพยนตร์ และละครไทย เหล่านี้จะเป็นแรงขับเคลื่อนให้ประเทศไทยมีบทบาทนำ ในการดำเนินความสัมพันธ์กับประเทศในภูมิภาคอเมริกาได้เป็นอย่างดี
ซึ่งนอกจากนายกรัฐมนตรีจะได้มอบนโยบายให้กับกงสุลใหญ่และทีมประเทศไทยแล้ว นายกรัฐมนตรียังได้รับรายงานข้อมูลที่เกี่ยวกับศักยภาพของประเทศต่าง ๆ ที่มีสำนักงานอยู่ในทวีปอเมริกา เช่น ประเทศบราซิล ซึ่งท่านอุปทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบราซิเลีย
ได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เพื่อนำไปสู่การกำหนดทิศทางนโยบายและยุทธศาสตร์ รวมทั้งความร่วมมือ ระหว่างประเทศไทยกับประเทศบราซิล ทั้งความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน การพัฒนาอุตสาหกรรมร่วมกัน รวมไปถึงการพัฒนาในภาคการเกษตร เนื่องจากประเทศบราซิล เป็นประเทศที่มีศักยภาพในด้านนี้ ซึ่งไทยสามารถนำไปปรับใช้เพื่อกำหนดเป็นยุทธศาสตร์ด้านการเกษตร กับประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคอเมริกาได้ด้วย
ส่วนในวันนี้ (13 พฤศจิกายน 67) นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยังได้ร่วมงานเลี้ยงต้อนรับรัฐมนตรีเอเปค และผู้เข้าร่วมการประชุมผู้นำเอเปค นอกจากนี้ยังได้มีโอกาสร่วมแสดงความยินดีกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศคนใหม่ของญี่ปุ่น โดยถือโอกาสหารือและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกันให้แน่นแฟ้นขึ้น โดยได้หารือเกี่ยวกับกรอบทวิภาคีร่วมกัน ทั้งเรื่องความร่วมมือการพัฒนาอุตสาหกรรม การพัฒนาการเกษตร ส่งเสริมการลงทุนการค้าระหว่างกัน
เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นได้เข้ามาลงทุนในประเทศไทยสูงมาก โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมรถยนต์ ที่มุ่งไปสู่การเป็นอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า พลังงานทดแทนเชื้อเพลิงต่าง ๆ และนอกจากความร่วมมือในกรอบของทวิภาคีแล้ว ไทยและญี่ปุ่น ยังได้หารือถึงความร่วมมือระหว่างกัน ในการขับเคลื่อนความร่วมมือที่จะนำไปสู่ ระดับพหุภาคี เพื่อนำไปสู่กรอบความร่วมมือการประชุมอนุภาคลุ่มแม่น้ำโขง
เนื่องด้วยประเทศญี่ปุ่น เป็นประเทศที่มีศักยภาพสูงด้านองค์ความรู้ทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับทุก ๆ ประเทศ
นอกเหนือจากนี้ ยังได้หารือถึงความร่วมมือในการขจัดยาเสพติด, การค้ามนุษย์ และออนไลน์สแกรม ซึ่งเป็นปัญหาที่กระทบกับประเทศอื่น ๆ และในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น ยินดีให้ความร่วมมือ และมองเห็นถึงศักยภาพของประเทศไทย ที่มีความสัมพันธ์อันดีกับประเทศญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยังได้หารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าของประเทศนิวซีแลนด์ ซึ่งไทยจะเดินทางไปเยือนประเทศนิวซีแลนด์ ช่วงกลางเดือนธันวาคมนี้ เพื่อหารือถึงความร่วมมือในมิติต่าง ๆ ที่สำคัญที่สุดก็คือความร่วมมือด้านการเกษตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมนมและโคเนื้อ และเรื่องการศึกษาด้วย
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ
วันที่ 14 พฤศจิกายน 2567