กระทรวงการต่างประเทศระบุว่า ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพการฝึกอบรมหลักสูตรกฎหมายระหว่างประเทศระดับภูมิภาคของสหประชาชาติ (United Nations Regional Course in International Law: UN Regional Course) ประจำปี 2567 ระหว่างวันที่ 18 พฤศจิกายน – 11 ธันวาคม ที่กรุงเทพมหานคร เพื่อเปิดโอกาสให้นักกฎหมายโดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ภาครัฐและนักวิชาการจากประเทศกำลังพัฒนาได้พัฒนาความรู้ความเข้าใจในกฎหมายระหว่างประเทศเพื่อนำไปปรับใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

ในแต่ละปี สหประชาชาติจะจัดการฝึกอบรมภายใต้โครงการดังกล่าวร่วมกับประเทศที่ได้รับเลือกใน 3 ภูมิภาค ได้แก่ แอฟริกา ละตินอเมริกาและแคริบเบียน และภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก โดยไทยได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพร่วมมาตั้งแต่ปี 2558 ซึ่งนับเป็นปีที่ 10 แล้วที่ไทยเป็นเจ้าภาพร่วมในโครงการฝึกอบรมนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อใจและวางใจของสหประชาชาติที่มีต่อประเทศไทยในการจัดงานระดับนานาชาติอย่างมีประสิทธิภาพจนทำให้การฝึกอบรมประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีในทุกครั้ง

 

การฝึกอบรมในปีนี้ที่กรุงเทพมหานครจะมีนักกฎหมายในสาขาวิชาชีพต่างๆ จากประเทศในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกรวม 21 ประเทศ รวมทั้งผู้แทนจากหน่วยงานไทย ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานอัยการสูงสุด และกระทรวงการต่างประเทศ เข้าร่วม นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมนอกหลักสูตรวิชาการ เช่น การทัศนศึกษาในแหล่งโบราณสถาน พิพิธภัณฑ์หรือชุมชนท้องถิ่น เพื่อให้ผู้เข้าร่วมได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ ศิลปะ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตของคนไทย ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งโอกาสในการประชาสัมพันธ์ soft power ของไทยให้กับชาวต่างชาติ

 

วิทยากรในการฝึกอบรมเป็นนักกฎหมายระดับสากล อาทิ สมาชิกคณะกรรมาธิการระหว่างประเทศ (ไอแอลซี) เป็นโอกาสให้วิทยากรและผู้เข้าร่วมได้แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ โดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวกับการดำเนินงานของไอแอลซีในการพัฒนากฎหมายระหว่างประเทศ เพื่อนำความรู้ทางกฎหมายที่ได้ไปปรับใช้กับปัญหาที่ท้าทายในปัจจุบัน อีกทั้งยังเป็นโอกาสที่ผู้เข้าร่วมซึ่งเป็นนักกฎหมายจากหน่วยงานจากต่างประเทศในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกได้ทำความรู้จักและสร้างเครือข่ายระหว่างกัน เพื่อสามารถนำไปสู่ความช่วยเหลือในการทำงานและการประสานงานระหว่างกันในอนาคตได้ต่อไป

 

ที่มา มติชนออนไลน์

วันที่ 17 พฤศจิกายน 2567