การจัดเก็บ "ภาษีคาร์บอน" สำหรับ "ภาคเกษตรกรรมของเดนมาร์ก"
ความคืบหน้าของนโยบายด้านสภาพภูมิอากาศของเดนมาร์กหรือที่เรียกว่า Climate Programme 2024 (KP24) ตามข้อตกลงไตรภาคีสีเขียว 2024 (Green Tripartie Agreement) เกษตรกรต้องจ่ายค่าภาษีในอัตรา 300 โครนเดนมาร์ก (ประมาณ 1,500 บาท) ต่อการปล่อยก๊าซ CO2 ปริมาณ 1 ตัน ตั้งแต่ปี 2578 เป็นต้นไป นอกจากนี้ไตรภาคภาคีสีเขียวยังมีข้อตกลงที่เป็นประโยชน์ต่อเดนมาร์กและสิ่งแวดล้อมของโลก ดังนี้
(1)เดนมาร์กได้จัดทำ Maritime Plan สำหรับพลังงานลมและแสงอาทิตย์ เพื่อสร้างสมดุลระหว่างการพัฒนาพลังงาน ความมั่นคง ผลประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อมในน่านน้ำของเดนมาร์กและได้มีการเปิดตัวแหล่งพลังงานลมนอกชายฝั่งที่ใหญ่ที่สุดของเดนมาาร์ก โดยที่ทางภาครัฐได้มีการเพิ่มเงินชดเชยให้กับผู้คนในท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบอีกด้วย
(2)ในปีที่ผ่านมาเดนมาร์กได้เริ่มโครงการการดักจับและกักเก็บคาร์บอน (Carbon Capture and Storage : CCS) โดยดักจับและปล่อยมลพิษจากโรงไฟฟ้าและความร้อนร่วม (Combined Heat and Power Supply : CHP) เพื่อจะช่วยลดการปล่อย CO2 ได้ถึง 2.3 ล้านตันต่อปี
(3)ภาคการขนส่งทางบกทางเดนมาร์กได้ตกลงปรับขึ้นอัตราภาษีน้ำมันดีเซลต่อลิตรจาก 3.55 เอือร์ (ประมาณ 0.18 บาท) เป็น 62.5 เอือร์ (ประมาณ 3.13 บาท) ในวันที่ 1 ม.ค. 2568 และภาคการขนส่งทางอากาศ ผู้โดยสารต้องจ่ายภาษีสำหรับค่าเดินทางเที่ยวบินระยะสั้นจำนวน 70 โครนเดนมาร์ก (ประมาณ 350 บาท) ในปี 2568 และ 100 โครนเดนมาร์ก (ประมาณ 500 บาท) ในปี 2573
(4)รัฐบาลเดนมาร์กได้นำเงินจากการปฎิรูปคลังสีเขียวไปลงทุนเพื่อช่วยเหลือในด้าน green transition รวมไปถึงการจัดสรรเงินกองทุนสีเขียนแห่งชาติเพื่อสนับสนุน green finance และสำหรับ green research อีกด้วย
(5)การไฟฟ้าที่รัฐบาลและเทคโนโลยี Power-to-X ในเครือข่ายไฟฟ้าแห่งชาติสำหรับการสร้างความเชื่อมโยงในอนาคตระหว่างเดนมาร์กและสวีเดน ซึ่งเดนมาร์กหวังว่า Power-to-X จะสามารถผลิตไฮโดรเจนสีเขียวได้ โดยข้อมูลขององค์การพลังงานระหว่างประเทศ (International Energy Agency : IEA) ระบุว่าจะสามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซ CO2 ได้ปริมาณกว่า 830 ล้านตันต่อปี
โดยมาตรการที่ระบุไว้นั้นเป็นข้อตกลงทางการเมืองเกี่ยวกับกฎระเบียบในอนาคตที่ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในการบรรลุเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศในอนาคตของเดนมาร์ก รวมถึงการเปลี่ยนแปลงที่เน้นไปทางภาคเกษตรกรรมและภาคการขนส่ง และมีเป้าหมายหลักคือการลดก๊าซเรือนกระจกและยังคงมุ่งมั่นที่จะกำหนดเป้าหมายให้สอดคล้องกับ climate neutrality ภายในปี 2588 อีกทั้งมาตรการนี้ไม่เพียงส่งผลดีแค่กับเดนมาร์กแต่ยังส่งผลดีกับทั้งโลกอีกด้วย (ข้อมูล สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโคเปนเฮเกo เรียบเรียงโดย ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์)
ที่มา globthailand
วันที่ 21 พฤศจิกายน 2567