รัฐสภาเวียดนามเผยว่า โครงการรถไฟความเร็วสูงคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในปี 2570 โดยจะแล้วเสร็จภายในปี 2578 เส้นทางรถไฟจะทอดยาวไปตามแนวกระดูกสันหลังของประเทศผ่าน 23  สถานีในจังหวัดและเมืองต่างๆ 20 แห่ง ซึ่งเป็นความยาวถึง 1,500 กิโลเมตร โดยรัฐสภาได้ระบุว่า นอกจากรถไฟความเร็วสูงจะมีบทบาทในการเชื่อมโยงศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ

 

และยังตอบสนองความต้องการด้านการป้องกันประเทศและความมั่นคง รวมถึงการขนส่งสินค้าเมื่อจำเป็นอีกด้วย

โดยรัฐบาลเวียดนามเผยว่าในการสร้างรถไฟความเร็วสูงนี้อาจกู้ยืมไม่เกิน 30% ของงบประมาณโครงการ อาจมาจากการกู้ยืมภายในประเทศหรือผ่านความช่วยเหลือจากต่างประเทศ อย่างไรก็ดี ยังคงต้องนึกถึงผลกระทบในหลายด้าน เช่น ผลกระทบที่ส่งผลต่อพื้นที่ป่าคุ้มครองและนาข้าวหลายส่วน และอาจรวมไปถึงการที่ประชากรราว 120,000 คนต้องย้ายถิ่นที่อยู่อาศัย

 

ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมคาดว่า รถไฟความเร็วสูงอาจเดินทางจาก “นครโฮจิมินห์” ไปยัง “กรุงฮานอย”  โดยใช้เวลาเพียง 5.5 ชั่วโมง อีกทั้ง ยังมีราคาตั๋วที่เข้าถึงได้ง่ายเพียงแค่ 64-92 ดอลลาร์ (2,200 – 3,200 บาท) ต่างจากการเดินทางด้วยเครื่องบินที่แม้จะใช้เวลาเพียงแค่ 2 ชั่วโมง แต่การเดินทางด้วยเครื่องบินนั้นมีค่าใช้จ่ายราว 100-360 ดอลลาร์ (3,500 – 12,400 บาท) 

 

ทำให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้คนหลายล้านคนที่ต้องการเดินทางข้ามระหว่าง 2 เมืองใหญ่ที่สุดของเวียดนาม นอกจากนี้เวียดนามยังวางแผนที่จะปรับปรุงทางรถไฟที่เชื่อมต่อกับจีนซึ่งจะดึงดูดบริษัทเทคโนโลยีต่างชาติไปยังเมืองท่องเที่ยวอย่างฮาลองอีกด้วย

 

ที่มา globthailand

วันที่ 7 ธันวาคม 2567