วันนี้ "จีน" ประชุมเศรษฐกิจประจำปี วางเป้าหมาย-มาตรการกระตุ้นปี 68
จับตา "จีน" ประชุมเศรษฐกิจประจำปีวันนี้ ( 11 ธ.ค. ) หารือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรับนโยบาย "ทรัมป์2.0" วางเป้าหมายสำหรับปี 68 คาดผ่อนคลายนโยบายทางการเงิน เพิ่มการใช้จ่ายภาครัฐ ดัน GDP โต 5%
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานถึงคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน (โปลิตบูโร) เตรียมประชุมคณะทำงานว่าด้วยเรื่องเศรษฐกิจ (Central Economic Work Conference) 2 วัน โดยเริ่มวันพุธที่ 11 ธ.ค. เพื่อกำหนดเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจ และแผนกระตุ้นเศรษฐกิจสำหรับปีหน้า 2568
การประชุมครั้งนี้เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่ารัฐบาลเตรียมพร้อมที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างจริงจังในปีหน้า โดยมีแผนที่จะผ่อนคลายนโยบายทางการเงิน และ เพิ่มการใช้จ่ายภาครัฐ เพื่อให้เศรษฐกิจกลับมาเติบโตอีกครั้ง นับเป็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายครั้งสำคัญที่ไม่ได้เห็นมานานหลายปี
นักเศรษฐศาสตร์จาก UBS และ Citigroup มองว่าจีนน่าจะตั้งเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจไว้ที่ 5% อีกครั้งในปี 2568 แม้ว่าตัวเลขที่แน่นอนจะประกาศในเดือนมีนาคมปีหน้าก็ตาม การคาดการณ์นี้สอดคล้องกับความคาดหวังของตลาดทั่วไป แสดงให้เห็นว่าจีนยังคงมุ่งมั่นที่จะรักษาอัตราการเติบโตให้อยู่ในระดับที่มั่นคง
เทา หวัง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ UBS ประจำจีนกล่าวเตือนว่าจีนอาจเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในอีก 2 ปีข้างหน้า หลังจากสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะขึ้นภาษีสินค้าจากจีนมากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้จีนต้องออกมาตรการสนับสนุนเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยเฉพาะในปี 2568
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนส่วนใหญ่เน้นไปที่การสนับสนุนภาคการผลิตและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเชิงยุทธศาสตร์สำคัญ เพื่อลดการพึ่งพาการส่งออกและกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น อาทิ
* อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งจีนมุ่งเป็นผู้นำในตลาดยานยนต์พลังงานสะอาด
* ภาคพลังงานแสงอาทิตย์ ที่มีการลงทุนและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
* อุตสาหกรรมแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของห่วงโซ่อุปทานพลังงานสะอาด
ความท้าทายเกิดขึ้นเมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีสินค้าจีนสูงถึง 60% ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีน ทำให้มีเสียงเรียกร้องให้รัฐบาลปักกิ่งปรับเปลี่ยนนโยบายเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการมุ่งเน้นการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศมากยิ่งขึ้น
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
วันที่ 11 ธันวาคม 2567