ยอดขายรถอีวีและไฮบริดทั่วโลกพุ่ง 7 เดือนติด เพิ่มขึ้น 32.3% เมื่อเทียบจากปีก่อน เป็น 1.83 ล้านคันในเดือนพฤศจิกายน ทะลุสถิติใหม่ต่อเนื่อง โดยมียอดขายเติบโตมากสุดในจีน คิดเป็นเกือบ 70% ของยอดขายรถ EV ทั้งหมด

 

รอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่า ตามข้อมูลจากโร โมชั่น (Rho Motion) บริษัทวิจัยตลาด พบว่ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ทั่วโลกเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกันในเดือนพฤศจิกายน โดยเพิ่มขึ้น 32.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี (YOY) เป็น 1.83 ล้านคัน

 

จีนยังนำการเติบโตโดยมียอดขายเพิ่มขึ้น 50% ขายได้ 1.27 ล้านคันทั่วโลก หรือมากกว่า 70% ของยอดขายรถ EV ทั้งหมดในเดือนพฤศจิกายน แม้จะมียอดขายตกลงในยุโรปเล็กน้อย แต่ยอดขายรถ EV ในจีนเพิ่มขึ้น 16.6% มากสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม

 

ขณะที่สหรัฐและแคนาดามียอดขายเพิ่มขึ้น 16.8% เป็น 0.17 ล้านคัน ส่วนยุโรปขายได้ 0.28 ล้านคัน ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบเป็นรายปี แต่เพิ่มขึ้น 7.7% เมื่อเทียบจากเดือนตุลาคม (MOM)

 

ตลาดรถยนต์ EV กำลังมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ด้วยปริมาณความต้องการและการผลิตที่เพิ่มขึ้นมากในจีน ทำให้ตลาดรถยนต์ EV ในที่อื่น ๆ เช่น ยุโรป ต้องเผชิญกับภัยคุกคาม ทั้งด้านต้นทุนที่เพิ่มขึ้น เป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และการแข่งขันอันดุเดือด

 

ค่ายรถทั้งในยุโรปและสหรัฐอเมริกาบอกว่า ด้วยความตึงเครียดทางการค้า ข้อจำกัดด้านการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และแรงจูงใจทางภาษีที่หายไป ส่งผลกระทบอย่างมากต่อต้นทุน ซึ่งอาจทำให้งานหลายพันตำแหน่งตกอยู่ในอันตราย

 

อย่างไรก็ตาม ด้วยการสนับสนุนของรัฐบาลจีนต่อตลาดรถ EV ทำให้บีวายดี (BYD) ซึ่งครองอันดับหนึ่งในจีน เตรียมมียอดขายรายปีแซงฟอร์ด (Ford) และฮอนด้า (Honda)

 

ที่มา ประชาชาติธุรกิจ

วันที่ 13 ธันวาคม 2567