หลี่ เฉียง นายกฯจีนสั่งดำเนินการแผนงานเศรษฐกิจปี 2025 อย่างเร่งด่วน
ในการประชุมคณะรัฐมนตรี หลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีนสั่งการให้เจ้าหน้าที่รีบดำเนินการตามแผนงานเศรษฐกิจปี 2025 โดยเร็ว รวมถึงเผยแผนปรับปรุงการบริหารจัดการพันธบัตรพิเศษของรัฐบาลมณฑล
บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า หลี่ เฉียง (Li Qiang) นายกรัฐมนตรีจีนเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลดำเนินตามแผนงานเศรษฐกิจที่สำคัญสำหรับปีหน้าอย่างเร่งด่วน หลังจากที่ผู้นำระดับสูงส่งสัญญาณการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มากยิ่งขึ้นสำหรับปี 2025
เมื่อวาน (17 ธันวาคม) นายหลี่ในฐานะประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (State Council of the People’s Republic of China) กล่าวว่า กระทรวงต่าง ๆ จะต้องดำเนินการเชิงรุกและดำเนินการให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ในการดำเนินการตามแผนที่กำหนดไว้ในการประชุมงานเศรษฐกิจแห่งชาติ อ้างอิงจากสำนักข่าวซินหัวที่รายงานภายหลังการประชุม
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผู้กำหนดนโยบายได้ให้คำมั่นที่จะยกระดับการส่งเสริมเศรษฐกิจในปีหน้า รวมถึงมาตรการที่จะกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ จีนจะรับรองนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายปานกลาง ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบ 14 ปีที่จีนเปลี่ยนจุดยืนนโยบายการเงินดังกล่าว ควบคู่กับการใช้เครื่องมือทางการการเงินเชิงรุกอื่น ๆ มากขึ้น
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นในห้วงที่ประเทศกำลังเตรียมรับมือสงครามการค้ากับสหรัฐที่อาจเกิดขึ้น เมื่อถึงเวลาที่โดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นบริหารประเทศอย่างเป็นทางการ
คณะรัฐมนตรีจีน (State Council of the People’s Republic of China) มีแผนที่จะพัฒนาการบริหารจัดการพันธบัตรชนิดพิเศษของรัฐบาลมณฑล ซึ่งเป็นแหล่งเงินทุนสำคัญในโปรเจ็กต์โครงสร้างพื้นฐานในอดีต
เจ้าหน้าที่ระดับมณฑลจะมีอำนาจปกครองตนเองที่มากขึ้นและการยืดหยุ่นมากขึ้นในการใช้พันธบัตรเหล่านี้ แต่ก็ได้จัดทำบัญชีพื้นที่ที่ไม่สามารถใช้พันธบัตรดังกล่าวไว้ด้วย
คณะรัฐมนตรีระบุอีกว่า ในปีหน้า เจ้าหน้าที่รัฐควรออกพันธบัตรและใช้พันธบัตรอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อขับเคลื่อนกิจกรรมการก่อสร้างโดยเร็วและช่วยในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผู้นำระดับสูงของจีนให้คำมั่นที่จะขายพันธบัตรที่ออกโดยรัฐบาลมณฑลและรัฐบาลกลางมากขึ้นเพื่อกระตุ้นการเติบโต
คณะรัฐมนตรีจีนเน้นย้ำสิ่งที่เจ้าหน้าที่จีนระบุก่อนหน้านี้ว่า รัฐบาลมณฑลที่มีปัญหาสภาพคล่องทางการเงินจะได้รับอนุญาตให้ใช้กองทุนที่มาจากพันธบัตรพิเศษนี้เพื่อซื้ออพาร์ตเมนต์ที่ขายไม่ออกและเปลี่ยนอพาร์ตเมนต์ไปเป็นโครงการที่อยู่อาศัยสาธารณะ แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับระดับของโครงการ
บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานอีกว่า การเข้าซื้อบ้านที่ยังขายไม่หมดของรัฐบาลถูกมองเป็นก้าวสำคัญที่จะแก้วิกฤตอสังหาริมทรัพย์ที่ยังคงดำเนินอยู่ แต่ทางการในระดับมณฑลต่าง ๆ ยังคงประสบปัญหาจากเงินทุนที่มีจำกัดและการขาดแรงจูงใจในการดำเนินการ
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ
วันที่ 17 ธันวาคม 2567