สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรสหรัฐอเมริกา (ICE) ได้เนรเทศผู้อพยพออกจากสหรัฐไปราว 271,000 คน ไปยัง 192 ประเทศในปี 2024 ตามรายงานที่เปิดเผยเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม โดยตัวเลขการเนรเทศผู้อพยพของสหรัฐในปีนี้นับว่าสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2014 และสูงที่สุดของรัฐบาลภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดน รวมถึงสูงกว่าตัวเลขการเนรเทศผู้อพยพของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทุกปีที่ดำรงตำแหน่งในสมัยแรกระหว่างปี 2017-2021

 

ประธานาธิบดีไบเดนให้คำมั่นในช่วงแรกๆ ของการดำรงตำแหน่งว่าจะยกเลิกนโยบายด้านผู้อพยพของทรัมป์ที่มีความรัดกุม แต่ไบเดนประสบปัญหาจำนวนผู้อพยพผิดกฎหมายที่พุ่งสูง ทำให้ไบเดนกลับมาเข้มงวดเรื่องการบังคับใช้กฎหมายผู้อพยพมากขึ้นอีกครั้ง

 

ข้อมูลของรัฐบาลสหรัฐและสถาบันคลังสมองคาดการณ์ว่าสหรัฐอเมริกามีผู้อพยพที่ไม่มีสถานะทางกฎหมายหรือความคุ้มครองชั่วคราวในปี 2022 ราว 11 ล้านคน โดยตัวเลขดังกล่าวอาจพุ่งขึ้นไปเป็น 13-14 ล้านคนในตอนนี้ แคโรไลน์ เลวิตต์ ว่าที่โฆษกหญิงประจำทำเนียบขาวสหรัฐของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า การเนรเทศผู้อพยพของไบเดนนั้นยังไม่เพียงพอเมื่อเทียบกับจำนวนผู้อพยพที่สูงในช่วงที่ไบเดนดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐ

 

“ในวันแรกที่เข้าดำรงตำแหน่ง ประธานาธิบดีทรัมป์จะจบฝันร้ายของเรื่องผู้อพยพและความมั่นคงของชาติที่ไบเดนได้สร้างขึ้นมา ด้วยการเริ่มเนรเทศอาชญากรผิดกฎหมายครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา” เลวิตต์กล่าว

 

ทั้งนี้ ความพยายามของทรัมป์ในการเพิ่มจำนวนการเนรเทศผู้อพยพในสมัยที่ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในสมัยแรกกลับประสบความสำเร็จไม่มากนัก โดยหน่วยงาน ICE ทำการเนรเทศผู้อพยพจำนวน 267,000 คนในปี 2019 ถือว่าน้อยกว่าในสมัยที่นายบารัค โอบามา ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในเกือบทุกปี

 

แม้ว่าจำนวนการเนรเทศผู้อพยพของสหรัฐจะเพิ่มขึ้นในปี 2024 แต่จำนวนการจับกุมผู้อพยพผิดกฎหมายในสหรัฐของหน่วยงาน ICE ในปี 2024 ลดลงจากปี 2023 ราว 33%

 

ที่มา มติชนออนไลน์

วันที่ 20 ธันวาคม 2567