เปิด 10 ธุรกิจ ดาวรุ่ง-ดาวร่วง ปี’68 ความงาม-อินฟลูฯขึ้นดาวรุ่งสร้างเงิน
ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจฯ เปิดผลสำรวจ 10 ธุรกิจ ดาวรุ่ง-ดาวร่วง ภายใต้ปัจจัยเศรษฐกิจไทยสัญญาณฟื้นตัว แต่ยังห่วงการเมืองกระทบ ขณะที่ธุรกิจการแพทย์และความงาม-Influencer ดาวเร่ง ร้านเช่า CD-สิ่งทอ ดาวร่วงปีหน้า
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยการสำรวจ 10 ธุรกิจเด่น-ร่วงในปี 2568 ว่าเป็นการสำรวจบนพื้นฐานเศรษฐกิจไทยที่เชื่อว่ามีสัญญาณการฟื้นตัวในปีหน้า และปี 2567 นี้ฟื้นตัว 2.6-3.2% และยังคงมองว่าเศรษฐกิจยังมีสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีในช่วงไตรมาส 1 และ 2 จากการติดตามสถานการณ์สงครามการค้าจะมีความรุนแรงในช่วงไตรมาส 1 มากน้อยแค่ไหน ซึ่งมีผลต่อเนื่องยังไตรมาส 2 ของปี
นอกจากนี้ ยังต้องติดตามสงครามตะวันออกกลาง รัสเซีย-ยูเครน จะมีการยุติเมื่อไรและคลีคลายตอนไหน เพราะมีผลต่อราคาน้ำมันและเศรษฐกิจโลก โดยจะเริ่มเห็นความชัดเจนหลังจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการไปแล้ว ฉะนั้น จะสามารถเช็กได้ว่าเศรษฐกิจไทยเป็นอย่างไรในปีหน้า ขณะที่เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวตั้งแต่ปลายปี 2567 แต่จะดีไปจนถึงไตรมาส 2 ของปี 2568 แค่ไหน
“มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐก็เป็นอีกปัจจัยที่จะมีผลต่อเศรษฐกิจ เพราะที่ผ่านมารัฐเริ่มอัดฉีดเม็ดเงินในปลายปี เช่น 1,000 บาทให้ชาวนาไม่เกิน 10 ไร่ต่อครัวเรือน ประมาณ 30,000 ล้านบาท และมาตรการ Easy E-Receip ที่กำลังจะออกมากระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงกลางเดือนมกราคม-กลางเดือนกุมภาพันธ์ ประมาณ 30,000-35,000 ล้านบาท มาตรการคุณสู้ เราช่วย โดยการพักดอกเบี้ย 3 ปี และการจ่ายเงินต้นลดน้อยลง 3 ปี น่าจะเริ่มไตรมาส 1 จะประหยัดดอกเบี้ย 20,000-25,000 ล้านบาท ที่จะเกิดเม็ดเงินเข้ามาในระบบเศรษฐกิจ”
นอกจากนี้ ยังมีมาตรการ 10,000 บาทให้กับผู้สูงอายุ ซึ่งจะมีเม็ดเงินประมาณ 40,000 ล้านบาท วงเงินรวมทั้งหมดจากมาตรการต่าง ๆ รวมประมาณ 100,000 ล้านบาท ที่จะถูกกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 1 และส่งสัญญาณไปยังไตรมาสที่ 2 ซึ่งจะมีผลต่อระบบเศรษฐกิจไทยเริ่มมีสัญญาณกระจายตัวไปทั่วประเทศ แต่ก็ยังมีจุดเปลี่ยนสำคัญที่จะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ที่เริ่มมีความกังวลในประเด็นการเมืองในประเทศ แม้จะจับต้องไม่ได้แต่มีผลต่อบรรยากาศในประเทศ
โดยต้องติดตามว่าตั้งแต่เมษายน 2568 เป็นต้นไปการเมืองในประเทศจะนิ่งไหม เพราะหากการเมืองไม่นิ่งจะมีผลกระทบต่อการพิจารณางบประมาณในปี 2569 อย่างไรก็ดี หากมีการเปลี่ยนแปลงการเมืองก็จะเกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอย เกิดการยุบสภา และการเบิกจ่ายงบประมาณแผ่นดินที่อาจจะลากยาวไปใช้ได้จริงปลายปี 2568
จุดนี้จึงสำคัญต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจทั้งประเทศ และจะมีโอกาสขยายตัวมากกว่า 3% ได้หรือไม่ แต่ยังมี 3 ประเด็นสำคัญ เช่น การท่องเที่ยว การส่งออก การใช้จ่ายภาครัฐจะดี จะทำให้เกิดเทรนขาขึ้นที่มีผลกระทบต่อธุรกิจที่จะเกิดขึ้นในปี 2568 ที่จะทำให้ธุรกิจไปต่อ
นายวิชร คูณทวีเทพ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายยุทธศาสตร์ และผู้อำนวยการสถาบันยุทธศาสตร์การค้า มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า สำหรับปัจจัยสนับสนุนต่อ 10 ธุรกิจ ดาวรุ่ง-ดาวร่วง เช่น ภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัวต่อเนื่อง ได้แรงหนุนจากฟรีวีซ่า พร้อมกับภาครัฐเตรียมเปิดแคมเปญกระตุ้นการท่องเที่ยว “Amazing Thailand Grand Tourism Year 2025” การเข้ามาลงทุนของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของโลก เช่น Amazon, Google, Microsoft และ Nvidia โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมดาต้าเซ็นเตอร์ อุตสาหกรรมเทคโนโลยีคลาวด์ พร้อมกับการวางโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของไทย
ไทยเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับกลุ่ม BRICS ช่วยยกระดับบทบาทของไทยในเวทีระหว่างประเทศ และยังช่วยหนุนการค้า การลงทุน การเงิน และการผลิตของไทย การดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภค
ปัจจัยบั่นทอน ความขัดแย้งทางภูมิศาสตร์ที่ยืดเยื้อ (Geopolitics) โดยเฉพาะพื้นที่ในตะวันออกกลางและสงครามรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อราคาพลังงานโลก และความปลอดภัยในการเดินทางของนักท่องเที่ยว ปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ยังคงอยู่ในระดับสูง มีผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทย
โดยคนส่วนใหญ่เป็นหนี้บัตรเครดิต ทิศทางการดำเนินนโยบายของรัฐบาลสหรัฐชุดใหม่ ภายหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐ เช่น นโยบายการขึ้นภาษี และมาตรการกีดกันทางการค้า ความไม่แน่นอนของภัยธรรมชาติ มีแนวโน้มรุนแรงสูงขึ้นและสร้างความเสียหายต่อภาคครัวเรือนและผลผลิตทางการเกษตร
10 ธุรกิจด่าวรุ่ง ปี 2568 :
(1)ธุรกิจการแพทย์และความงาม ธุรกิจ Cloud Service และธุรกิจบริการ Cyber Security
Social Media และ Online Entertainment
(2)ธุรกิจจัดทำคอนเทนต์ ธุรกิจ YouTube การรีวิวสินค้า และ Influencer
(3)ธุรกิจ e-Commerce (ธุรกิจที่ทำการซื้อขายผ่านอิเล็กทรอนิกส์) ธุรกิจ Soft Power ไทยโดยเฉพาะซีรี่ย์ภาพยนตร์ ธุรกิตโฆษณา และสื่อออนไลน์
(4)งานคอนเสิร์ต มหกรรมจัดแสดงสินค้า ธุรกิจ Event เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
(5)ธุรกิจความเชื่อ (สายมู หมอดู ฮวงจุ้ย) ธุรกิจเงินด่วน โรงรับจำนำ ธุรกิจประกันภัยชีวิต
(6)ธุรกิจการให้บริการผ่านแพลตฟอร์ม เช่น แม่บ้านรายวัน การซ่อมแซมอุปกรณ์ เป็นต้น ผับ บาร์ คาราโอเกะ
(7)คลินิกการภาพ ธุรกิจให้บริการสถานีชาร์จรถไฟฟ้า (ธุรกิจ EV Charging Station) และติดตั้ง ธุรกิจรถยนต์ EV ธุรกิจสัตว์เลี้ยง ขายอาหาร อุปกรณ์และแฟชั่น และดูแลสัตว์
(8)ธุรกิจด้านการเงิน ธนาคาร Fintech และการชำระเงินผ่านระบบเทคโนโลยี ธุรกิจตู้ยอดเหรียญเครื่องดื่ม อาหาร และธุรกิจเครื่องสะดวกซัก ธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม ทัวร์ และธุรกิจเกี่ยวเนื่อง
(9)ธุรกิจโทรคมนาคมสื่อสาร เช่น ผู้ให้บริการอินเmอร์เน็ต หรือสัญญาณสื่อสารต่าง ๆ ธุรกิจโลจิสติกส์ Delivery และคลังสินค้า ทนายความ และตรวจสอบบัญชี Street Food และตลาดนัดกลางคืน
(10)ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม (ที่ไม่มีแอลกอฮอล์) ธุรกิจพลังงานทดแทน เช่น โซลาร์เซลล์ โรงพยาบาล คลิกนิก เกี่ยวกับสัตว์
10 ธุรกิจดาวร่วง ปี 2568 :
(1)ธุรกิจจำหน่ายและให้เช้า CD หรือ VDO
(2)ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ที่ไม่มี Platform Online
(3)ธุรกิจคนกลางผลิตและจำหน่ายที่เก็บข้อมูล เช่น CD DVD Thumb Drive การ์ดอื่น ๆ
(4)บริการส่งหนังสือพิมพ์
(5)ธุรกิจผลิตสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม
(6)ธุรกิจถ่ายเอกสาร
(7)ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ไม้แบบดั้งเดิม ไม่มีการออกแบบดีไซน์
(8)ธุรกิจรถยนต์มือ 2
(9)ร้านขายเครื่องเล่น
(10)ธุรกิจผลิตกระดาษ ธุรกิจร้านโชห่วย
เปรียบเทียบ 10 ธุรกิจดาวรุ่งในปี 2567 และ 2568 :
-ธุรกิจเด่นปี 2567 ที่ไม่โดดเด่นติด 1 ใน 10 ปี 2568
-ธุรกิจ e-Sport เกมส์ และธุรกิจเกี่ยวเนื่อง
ธุรกิจตลาดเพื่อการท่องเที่ยว
-ธุรกิจยานยนต์
-ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และการก่อสร้าง
ธุรกิจดาวรุ่งปี 2568 ที่ไม่ติด 1 ใน 10 ปี 2567 :
-เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
-ธุรกิจการให้บริการผ่านแพลตฟอร์ม เช่น แม่บ้านรายวัน การซ่อมแซมอุปกรณ์ เป็นต้น
-คลินิกกายภาพ
-ธุรกิจให้บริการสถานีชาร์จรถไฟฟ้า (ธุรกิจ EV Charging Station) และติดตั้ง
-ธุรกิจตู้ยอดเหรียญเครื่องดื่ม อาหาร และธุรกิจเครื่องสะดวกซัก
-ธุรกิจโทรคมนาคมสื่อสาร เช่น ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต หรือสัญญาณสื่อสารต่าง ๆ
-ทนายความและตรวจสอบบัญชี
-Street Food และตลาดนัดกลางคืน
-โรงพยาบาล คลินิก เกี่ยวกับสัตว์
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ
วันที่ 23 ธันวาคม 2567