ธนาคารโลก (World Bank) ได้เผยแพร่รายงาน Viet Nam : Reccomendations to the National Roadmap and Action Plan for the Electric Mobility Transition ระบุว่า การเปลี่ยนผ่านสู่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) และการลดการปล่อย CO2 ในภาคการขนส่งเวียดนามต้องอาศัยนโยบายและการลงทุนอย่างเป็นระบบใน 5 ด้านหลักๆ ได้แก่ 

 

การเพิ่มอุปทานและการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า, การกระตุ้นความต้องการของผู้บริโภค, การขยายโครงสร้างพื้นฐานด้านการชาร์จรถ EV, การเตรียมความพร้อมให้กับภาคส่วนพลังงานเพื่อรองรับความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้นจากการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า และการพัฒนาทักษะกำลังคนเพื่ออุตสาหกรรมรถ EV 

 

ซึ่งจะเริ่มด้วยยานยนต์ 2 ล้อ และหลังจากปี 2578 รถยนต์ไฟฟ้าจะเป็นยานพาหนะหลักของเวียดนาม โดยรถยนต์ไฟฟ้าอาจคิดเป็นร้อยละ 93 ของยอดขายรถยนต์ทั้งหมดในช่วงปี 2579 – 2593 หากเวียดนามพัฒนาเครือข่ายสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่ครอบคลุมเพื่อรองรับความต้องการซื้อรถยนต์ EV เพิ่มขึ้นได้ 

 

การเปลี่ยนแปลงนี้ จะช่วยเพิ่มสัดส่วนของยานยนต์ในเมืองด้วยไฟฟ้าหรือพลังงานสีเขียวเป็นร้อยละ 50 ในปี 2573 และร้อยละ 100 ในปี 2593 โดยการเปลี่ยนผ่านครั้งนี้จะช่วยลดการปล่อย CO2 ได้ 5.3 ล้านตัน CO2e ในปี 2573 และ 226 ล้านตัน CO2e ในปี 2593  

 

โดยภาคอุตสาหกรรมพลังงานของเวียดนามจะต้องขยายเครือข่ายสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อรองรับความต้องการการมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งเวียดนามจะต้องลงทุนภาคพลังงานเพิ่มเติมสูงถึง 9,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2573  และ 14,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2574 – 2593 เพื่อขยายกำลังการผลิตและการส่งไฟฟ้า นอกเหนือจากการลงทุนที่ระบุไว้ในแผนพัฒนาไฟฟ้าแห่งชาติต่อไปในอนาคต (ข้อมูล สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย, เรียบเรียงโดย ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์)

 

ที่มา globthailand

วันที่ 26 ธันวาคม 2567