ฮ่องกงดำเนินนโยบายเปลี่ยนผ่านภาคขนส่งสาธารณะ ตั้งเป้าปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593
จากการที่ฮ่องกงประสงค์ดําเนินงานเพื่อเปลี่ยนผ่านภาคการขนส่งสาธารณะของฮ่องกงตามเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593 โดยเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2567 นาย Tse Chin-wan รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อมและนิเวศวิทยาฮ่องกงได้แถลงแผนแม่บทการเปลี่ยนผ่านสีเขียวสําหรับรถเมล์สาธารณะและรถแท็กซี่ (Green Transformation Roadmap for Public Buses and Taxis)
โดยมีสาระสําคัญระบุว่า รัฐบาลฮ่องกงจะจัดสรรงบประมาณ จํานวน 600 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 2.6 พันล้านบาท) เพื่อเป็นเงินอุดหนุนแก่ผู้ประกอบการในการซื้อรถเมล์ไฟฟ้า จํานวน 600 คัน และรถแท็กซี่ไฟฟ้า จํานวน 3,000 คัน ทดแทนรถที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปที่ให้บริการอยู่เดิม
สำหรับเงื่อนไขการให้เงินอุดหนุน แบ่งออกเป็น 2 เงื่อนไข ดังนี้
(1) ผู้ประกอบการรถเมล์จะได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลในการจัดซื้อรถเมล์ไฟฟ้าทดแทนรถเมล์แบบเดิมเป็น 2 กรณี โดยกรณีที่ 1 : แบบชั้นเดียว (single-decker bus) จะได้รับเงินอุดหนุนคันละ 4 แสนดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 1.75 ล้านบาท) และกรณีที่ 2 : แบบสองชั้น (double-decker bus) จะได้รับเงินอุดหนุนคันละ 8 แสนดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 3.5 ล้านบาท) หรือร้อยละ 20 ของราคาขาย แล้วแต่กรณีใดคิดเป็นเงินจํานวนน้อยกว่า โดยผู้ประกอบการจะต้องสั่งซื้อรถเมล์ไฟฟ้าภายในปี 2570 และจะได้รับรถและจดทะเบียนกับรัฐบาลภายในปี 2572
(2) ผู้ประกอบการรถแท็กซี่จะได้รับเงินอุดหนุนคันละ 4.5 หมื่นดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 1.97 แสนบาท) โดยจะต้องสั่งซื้อรถแท็กซี่ไฟฟ้าภายในระยะเวลา 6 เดือน และจดทะเบียนกับรัฐบาลภายในระยะเวลา 1 ปี
ทั้งนี้ ในปี 2568 รัฐบาลจะขยายเครือข่ายสถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า โดยมีแผนที่จะสร้างสถานีชาร์จความเร็วสูงสําหรับรถแท็กซี่ไฟฟ้า จํานวน 500 แห่ง ให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 3 ปี เพิ่มเติมจากเดิมที่มีให้บริการในฮ่องกงแล้ว จํานวน 1,500 แห่ง (ข้อมูล สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฮ่องกง, เรียบเรียงโดย ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์)
ที่มา globthailand
วันที่ 31 ธันวาคม 2567