หอการค้าห่วง ครึ่งปีหลังรบ.กระสุนหมด เร่งหารายได้เพิ่ม-ใช้มาตรการคูณ2กระตุ้นศก.
เมื่อวันที่ 13 มกราคม นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ประเมินภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปี 2568 โดยคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ราว 2.4-2.9% ขณะที่การส่งออก จะขยายตัว 1.5-2.5% ต่อเนื่องจากปีก่อน ส่วนอัตราเงินเฟ้อ อยู่ที่ 0.8-1.2% ซึ่งยังอยู่ในระดับต่ำ
เศรษฐกิจไทยช่วงครึ่งปีแรกอาจจะยังมีโมเมนตัมโตต่อเนื่องจากปลายปีก่อน เพราะขณะนี้หลายประเทศกำลังเร่งนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศก่อนที่จะถูกสหรัฐฯปรับขึ้นภาษี ทำให้ส่งออกช่วงครึ่งปีแรกยังโตดี ส่วนเศรษฐกิจช่วงครึ่งปีหลังน่าเป็นห่วงมาก เพราะมาตรการขึ้นภาษีของสหรัฐจะมีผล ขณะที่กระสุนของรัฐบาลก็หมดแล้ว ดังนั้นรัฐบาลจะต้องเร่งหารายได้เพิ่มเพื่อนำเงินมากระตุ้นเศรษฐกิจ
“คงต้องตามดูว่ารัฐบาลจะหารายได้เพิ่มวิธีไหน หน่วยงานที่ดูแลนโยบายด้านการเงิน และด้านการคลัง ควรประสานการทำงานร่วมกันในการหาเม็ดเงินเพื่อมาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ทางออกด้วยการขึ้นภาษี มูลค่าเพิ่ม (VAT) นั้น หากจำเป็นควรปรับขึ้นควรค่อยเป็นค่อยไป เราไม่เห็นด้วยหากจะมีการขึ้นแวตในช่วงเศรษฐกิจไทยยังไม่แข็งแรง เพราะจะผลกระทบต่อรายได้ประชาชน และอาจทำให้เศรษฐกิจภาพรวมชะลอตัว ได้” นายสนั่น กล่าว
นายสนั่น กล่าวว่า ช่วงครึ่งปีหลัง ภาคเอกชนยังมีความกังวลใน 2 ประเด็น คือ เม็ดเงินที่รัฐบาลจะใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจอาจลดลง และภาวะเศรษฐกิจโลก จะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว และการส่งออกของไทยให้ชะลอตัวลงได้ ดังนั้นต้องเร่งหารายได้เพิ่ม รวมทั้งในส่วนของมาตรการในประเทศจะต้องเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยนำโครงการคูณสองหรือคนละครึ่งกลับมาใช้ เพื่อดึงเงินจากกระเป๋าของผู้ที่มีกำลังซื้อให้ออกมาช่วยในการกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศได้
ส่วนด้านต่างประเทศจะต้องเร่งส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยเฉพาะเร่งแก้ไขปัญหาความไม่เชื่อมั่นในตลาดจีนที่เกิดขึ้นจากปัญหา ดาราซิงซิงที่หายตัวไปบริเวณชายแดนไทย เพราะจีนเป็นตลาดหลักของไทย รวมทั้งเร่งหามาตรการดึงดูดให้คนอินเดียเข้ามาเที่ยวไทยเพิ่ม ด้านการส่งออกจะต้องมีการผลักดันการส่งออกสินค้าตัวใหม่ๆที่ผลิตภายในอีอีซีให้มากขึ้นเพื่อเพิ่มมูลค่าการส่งออก
นายสนั่น กล่าวถึงเสถียรภาพทางการเมือง หลังมีกระแสข่าวปรับคณะรัฐมนตรีครั้งใหญ่ในเดือนเม.ย.ว่า การปรับคณะรัฐมนตรี ถือเป็นเรื่องปกติของรัฐบาล โดยมองว่ารัฐบาลยังมีเสถียรภาพในการบริหารประเทศต่อได้ และเป็นสิ่งจำเป็นมากที่จะต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับทั้งในประเทศและต่างประเทศ
“เรายังเชื่อมั่นว่ารัฐบาลยังทำงานได้อย่างต่อเนื่อง โชคดีที่ประเทศไทยที่ผ่านมา แม้จะมีการเปลี่ยนรัฐบาล แต่นโยบายยังคงเส้นคงวา ต่างประเทศยังมีความเชื่อมั่น ขณะที่ไทยเองยังมีมาตรการต้อนรับการลงทุนจากนักลงทุนต่างประเทศ” นายสนั่น กล่าว
ส่วนการดูแลกรณีสินค้านำเข้าราคาถูกจากต่างประเทศทะลักเข้าไทย โดยเฉพาะสินค้าจากจีนนั้น นายสนั่น กล่าวว่า ทางหอการค้าไทย อยู่ระหว่างศึกษาแนวทางที่เป็นมาตรการทางการค้าของประเทศต่าง ๆ ในอาเซียน เพื่อเตรียมเสนอให้กับรัฐบาลใช้เป็นแนวทางในการรับมือกับการดูแลและปกป้องการค้าระหว่างประเทศของไทย คาดว่าการศึกษาจะแล้วเสร็จในเดือน ก.พ.นี้
ที่มา มติชนออนไลน์
วันที่ 14 มกราคม 2568