5 ความเสี่ยงโลก ปี 2025 จากรายงาน World Economic Forum
ในแต่ละเดือนแต่ละปี โลกเผชิญความเสี่ยงมากมาย ความเสี่ยงที่อันตรายหรือน่ากังวลที่สุดจากแต่ละมุมมองก็อาจจะต่างกันไป สำหรับปี 2025 นี้ ความเสี่ยงระดับโลก 3 อันดับแรกที่บรรดานักเศรษฐศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจกังวล คือ สงคราม สภาพอากาศสุดขั้ว และการเผชิญหน้าทางภูมิเศรษฐศาสตร์ (Geoeconomics)
สภาเศรษฐกิจโลก หรือ เวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรัม (World Economic Forum: WEF) ซึ่งเป็นองค์กรจัดการประชุมทางเศรษฐกิจในชื่อเดียวกัน หรือที่รู้จักในชื่อ การประชุมดาวอส (Davos) ได้เผยแพร่รายงาน “Global Risk Report 2025” (รายงานความเสี่ยงระดับโลก ประจำปี 2025) เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2025 ก่อนที่การประชุม ณ เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งมีผู้นำรัฐและภาคธุรกิจกว่า 3,000 คน จากกว่า 130 ประเทศเข้าร่วม จะเริ่มขึ้นในวันนที่ 20 มกราคมนี้
ทั้งนี้ เป็นธรรมเนียมปฏิบัติมาแล้วหลายปีที่ World Economic Forum จะสำรวจความคิดเห็นนักเศรษฐศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญในช่วงปลายปี เพื่อจัดทำรายงานเผยแพร่ก่อนการประชุมในต้นปีถัดมา สำหรับรายงานปี 2025 นี้ สำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญจำนวน 900 คน ในช่วงเดือนกันยายนและตุลาคม 2024 ที่ผ่านมา
ผลสำรวจประเด็นความเสี่ยงในปี 2025 พบว่า ผู้ตอบแบบสำรวจเกือบ 1 ใน 4 (23%) เลือก “ความขัดแย้งระหว่างรัฐโดยมีการใช้อาวุธ” เป็นความเสี่ยงที่สร้างความกังวลมากที่สุดในปี 2025 รองลงมา อันดับ 2 คือ สภาพภูมิอากาศสุดขั้ว (14%) อันดับ 3 คือ การเผชิญหน้าทางภูมิเศรษฐศาสตร์ เช่น การคว่ำบาตร กำแพงภาษี (8%) อันดับ 4 คือ ข้อมูลที่ผิดพลาดและข้อมูลที่บิดเบือน (7%) และอันดับ 5 คือ การแบ่งขั้วทางสังคม (6%)
ทั้งนี้ ความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศสุดขั้ว กับความเสี่ยงด้านข้อมูลที่ผิดพลาดและข้อมูลที่บิดเบือน นั้นเป็นสองด้านที่ติดอยู่ใน 5 อันดับแรกในปี 2024 ด้วย
ส่วนการสำรวจประเด็นความเสี่ยงในระยะ 10 ปีข้างหน้า พบว่า ความเสี่ยงผู้ตอบแบบสำรวจกังวลมากที่สุด คือ การเผชิญหน้าทางภูมิเศรษฐศาสตร์ (53%) รองลงมาคือ ความขัดแย้งระหว่างรัฐโดยมีการใช้อาวุธ (41%) อันดับ 3 คือ อาวุธอันตรายทางชีวภาพ เคมี หรือนิวเคลียร์ (36%) การรวมศูนย์ของทรัพยากรที่มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ (32%) อันดับที่ 5 มีสองด้าน คือ การอพยพหรือเคลื่อนย้ายถิ่นฐานโดยไม่สมัครใจ (29%) และการหยุดชะงักในห่วงโซ่อุปทานที่มีความสำคัญเชิงระบบ (29%)
จะเห็นว่าความเสี่ยงเรื่องสภาพภูมิอากาศสุดขั้ว ซึ่งหมายรวมไปถึง คลื่นความร้อน พายุทอร์นาโดและน้ำท่วม เป็นความเสี่ยงทั้งในระยะสั้นและระยะยาวอย่างเห็นได้ชัด
มิเรก ดูเซก (Mirek Dusek) กรรมการผู้จัดการการสภาเศรษฐกิจโลก กล่าวว่า ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้นและการสูญเสียความไว้ใจซึ่งกันและกัน เป็นสิ่งที่ผลักดันให้เกิดความเสี่ยงระดับโลก ดังนั้น ในบริบทที่มีความซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลานี้ ผู้นำมีทางเลือกอยู่สองทาง คือ หาวิธีที่จะส่งเสริมความร่วมมือและความพร้อมในการรับมือความเปลี่ยนแปลง (resilience) หรือเผชิญกับความเสี่ยงที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น
WEF กล่าวว่า ความขัดแย้งโดยมีการใช้อาวุธ ถูกมองข้าม ไม่จัดว่าเป็นความเสี่ยงระยะสั้นในการสำรวจเมื่อ 2 ปีก่อน แต่พัฒนาการในช่วงที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นแล้วถึงความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้นและภูมิทัศน์โลกที่แตกแยกมากยิ่งขึ้น
อันโตนิโอ กุแตเรซ (Antonio Guterres) เลขาธิการสหประชาชาติ เคยกล่าวเตือนไว้ก่อนหน้านี้ว่า โลกกำลังเผชิญกับความขัดแย้งจำนวนมากที่สุดนับตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยกล่าวอ้างถึงการรุกรานยูเครนอย่างเต็มรูปแบบของรัสเซีย รวมไปถึงความขัดแย้งในตะวันออกกลางกับแอฟริกา
นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงระยะสั้นอื่น ๆ ที่ถูกจัดอยู่ในรายงานฉบับล่าสุดของ World Economic Forum รวมถึงการแบ่งขั้วทางสังคม การจารกรรมทางไซเบอร์ มลพิษ และความไม่ทัดเทียมในสังคม
แคไลรินา คลินต์ (Calirina Klint) ผู้จัดการด้านบริหารความเสี่ยงสำหรับภูมิภาคยุโรปของ มาร์ช แมคเลนแนน (Marsh McLennan) บริษัทที่ปรึกษาความเสี่ยงชั้นนำของโลก กล่าวในการให้สัมภาษณ์ซีเอ็นบีซีเมื่อวันพุธที่ 15 มกราคมว่า เห็นได้ชัดว่าโลกกำลังอยู่ในสถานการณ์อันเลวร้าย และภูมิทัศน์ความเสี่ยงระดับโลกนั้นเหมือนกับรังกระรอกที่ความเสี่ยงทุกอย่างเชื่อมต่อถึงกันและเรียงทับกันซ้อนไปเรื่อย ๆ ทำให้สภาพแวดล้อมทางธุรกิจนั้นเป็นสภาพที่ดำเนินธุรกิจยากมาก
คลินต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ความเสี่ยงเหล่านี้ไม่ได้สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่เป็นแนวโน้มเดิมที่มีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ
“ฉันคิดว่าพวกเรากำลังเข้าสู่ยุคที่มีความตึงเครียดทางเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้น และฉันคิดว่าเราจำเป็นต้องตระหนักว่าความแตกแยกไม่ใช่แค่ความกังวลในเชิงทฤษฎี แต่มันเป็นสิ่งหนึ่งที่เราต้องเผชิญจริง ๆ ในปัจจุบัน ดังนั้น จึงทำให้สภาพแวดล้อมทางการค้ามีความซับซ้อนและมีความไม่แน่นอนมากยิ่งขึ้น” แคโรไลน่า คลินต์ กล่าวเพิ่มเติม
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ
วันที่ 17 มกราคม 2568