หลังพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน และประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ได้หารือกันผ่านวิดีโอคอลนานกว่าชั่วโมงครึ่ง โดยได้มีการเสนอให้กระชับความสัมพันธ์ทางยุทธศาสตร์ระหว่างสองประเทศให้ลึกซึ้งมากขึ้น ซึ่งทำให้ชาติตะวันตกยิ่งเพิ่มความวิตกกังวล

 

สื่อของรัฐบาลจีนรายงานว่า สีเรียกร้องให้ปูตินกระชับความสัมพันธ์เชิงยุทธศาสตร์ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น เสริมสร้างการสนับสนุนซึ่งกันและกัน และปกป้องผลประโยชน์ที่ถูกต้องตามกฎหมายของปักกิ่งและมอสโก

 

ขณะที่ปูตินเรียกสีจิ้นผิงว่าเพื่อนรัก พร้อมบอกว่ารัสเซียและจีนกำลังสร้างความสัมพันธ์บนพื้นฐานของมิตรภาพ ความไว้วางใจ และการสนับสนุนซึ่งกันและกัน การทำงานร่วมกันของรัสเซียและจีนมีบทบาทสำคัญในการสร้างเสถียรภาพในกิจการระหว่างประเทศ

 

ขณะที่สีได้แจ้งให้ปูตินทราบถึงการหารือของเขากับทรัมป์เมื่อวันที่ 17 มกราคม ในประเด็นเกี่ยวกับติ๊กต็อก การค้า และไต้หวัน

 

ยูริ อูชาคอฟ ผู้ช่วยด้านนโยบายต่างประเทศของทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซีย ให้สัมภาษณ์ว่า สีและปูตินแสดงความเต็มใจที่จะสร้างความสัมพันธ์กับสหรัฐบนพื้นฐานที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่ายและมีความเคารพซึ่งกันและกัน หากทีมงานของทรัมป์สนใจในเรื่องนี้จริงจัง

 

อูชาคอฟกล่าวว่า รัสเซียพร้อมที่จะเจรจากับรัฐบาลสหรัฐชุดใหม่เกี่ยวกับความขัดแย้งในยูเครน ปูตินต้องการสันติภาพระยะยาวในยูเครน ไม่ใช่การหยุดยิงระยะสั้น แต่ข้อตกลงใดๆ ก็ตามจะต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของรัสเซีย อย่างไรก็ดีจนถึงขณะนี้รัสเซียยังไม่ได้รับการทาบทามใดๆ สำหรับการโทรศัพท์หารือกับทรัมป์

 

ด้านเหมา หนิง โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน กล่าวระหว่างการแถลงข่าวประจำวันว่า จีนเชื่อเสมอมาว่าไม่มีผู้ชนะในสงครามการค้าหรือสงครามภาษี และจีนมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่นที่จะปกป้องผลประโยชน์ของชาติ การออกมาแสดงจุดยืนดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ทรัมป์ระบุว่ากำลังพิจารณาเพิ่มภาษีสินค้านำเข้าจากจีน 10% โดยให้มีผลเร็วที่สุดในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้

 

ที่มา มติชนออนไลน์

วันที่ 22 มกราคม 2568