ปธ.หอค้าฯจี้รบ.รับมือ 5 ด้านนโยบายทรัมป์2.0 เร่งจัดทีมเจรจากับมะกันเร่งด่วนก่อนเดตไลน์ 1 เม.ย.
เมื่อวันที่ 22 มกราคม นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงการกลับมาดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ พร้อมกับการลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหาร 10 ฉบับในวันแรกของการทำงาน ได้สร้างแรงกระเพื่อมไปทั่วโลก นโยบายเหล่านี้สะท้อนถึงแนวคิดที่เน้นการปกป้องผลประโยชน์ของสหรัฐ และการดำเนินนโยบายที่อาจเปลี่ยนแปลงดุลอำนาจในเวทีโลก แม้ว่าคำสั่งหลายฉบับจะเน้นไปที่ผลประโยชน์ภายในประเทศสหรัฐ แต่ผลกระทบในทางตรงและทางอ้อมต่อประเทศไทยก็ไม่อาจมองข้ามได้
คำสั่งบางฉบับ เช่น การถอนตัวจากองค์การอนามัยโลก (WHO) และการพูดถึงการยึดคลองปานามา ส่วนนี้น่าจะเป็นท่าทีในการใช้เพื่อเจรจาต่อรองกับจีน และกรีนแลนด์ อาจส่งผลกระทบต่อประเทศไทยในเชิงอ้อม การลดบทบาทของ WHO อาจทำให้ความสามารถในการจัดการโรคระบาดระดับโลกลดลง ซึ่งไทยในฐานะประเทศที่พึ่งพาความร่วมมือระหว่างประเทศ อาจต้องเพิ่มศักยภาพภายในเพื่อรับมือกับวิกฤตสุขภาพในอนาคต
นอกจากนี้ การควบคุมพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญของสหรัฐ เช่น คลองปานามา อาจส่งผลต่อเส้นทางการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งไทยอาจเผชิญต้นทุนการขนส่งสินค้าที่เพิ่มขึ้น ส่วนการถอนตัวจากข้อตกลงปารีส อาจทำให้ไทยต้องเผชิญแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นในด้านสิ่งแวดล้อมและมาตรการลดคาร์บอน นอกจากนี้ การขึ้นภาษีสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโก 25% อาจสร้างโอกาสให้สินค้าไทย เช่น อาหารและสินค้าเกษตร ขยายส่วนแบ่งในตลาดสหรัฐ แม้ว่าจะยังไม่ได้มีการลงนามในคำสั่งขึ้นภาษีสินค้าจากจีน
แต่ประธานาธิบดีทรัมส์ แต่ให้สัมภาษณ์นักข่าวว่าเขายังมีแนวคิดในการขึ้นภาษีกับจีน ซึ่งส่วนนี้ต้องจับตามองเนื่องจาก ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ได้มีการพูดคุยกับประธานาธิบดีทรัมส์ และได้เชิญให้เดินทางเยือน จีนอย่างเป็นทางการ ซึ่งเชื่อว่าประเด็นต่างๆเหล่านี้รวมไปถึงการต่อรองที่เกี่ยวข้องกับการค้า น่าจะมีความชัดเจนหลังจากที่ได้มีการพบกัน
นายสนั่น กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีทรัมส์ ได้ลงนามคำสั่งกว่า 200 ฉบับ ซึ่งหอการค้าเห็นว่ามีหนึ่งในคำสั่งที่ต้องจับตามองคือ America First Trade Policy โดยในรายละเอียดแบ่งเป็น 5 เรื่องสำคัญที่ประธานาธิบดีให้ความสำคัญและมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการติดตาม ได้แก่
(1)การลดการพึ่งพาประเทศอื่นๆ
(2)การจัดการกับการค้าที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งส่วนนี้ได้มีการมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และผู้แทนการค้า ตรวจสอบสาเหตุที่ทำให้สหรัฐอเมริกา ขาดดุลการค้ากับประเทศต่างๆ ในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงการตรวจสอบว่าประเทศใดมีการบิดเบือนค่าเงินเพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างความได้เปรียบกับสหรัฐ
(3)การทบทวนมาตรการต่างๆที่เกี่ยวข้องกับจีน ซึ่งเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี ทรัพย์สินทางปัญญา และภาษี
(4)มาตรการที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงทางเศรษฐกิจ และข้อสุดท้าย
(5)ขอให้มีการ ดำเนินการในข้อต่างๆให้แล้วเสร็จ พร้อมรายงานและ ให้ข้อเสนอแนะว่าควรดำเนินการอย่างไร ภายในวันที่ 1 เมษายน นี้ หากพิจารณาจากคำสั่งดังกล่าว ประเด็นข้อที่ 2 คือการค้าไม่เป็นธรรมอาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ประเทศไทยต้องเตรียมรับมือ เนื่องจากที่ผ่านมาไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้ดุลการค้าจากสหรัฐอเมริกาค่อนข้างสูง และในภูมิภาคอาเซียน ไทยได้ดุลการค้ากับสหรัฐเป็นอันดับ2 รองเพียงเวียดนาม
”หอการค้าจึงเห็นว่ารัฐบาลโดยเฉพาะกระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำเป็นที่จะต้องเร่งจัดทีมเจรจากับสหรัฐอเมริกาอย่างเร่งด่วนที่สุด เนื่องจากหลายมาตรการที่เกี่ยวข้องกับการค้าน่าจะมีความชัดเจนภายหลังวันที่ 1 เมษายนนี้ ” นายสนั่น กล่าว
ที่มา มติชนออนไลน์
วันที่ 23 มกราคม 2568