นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ปี 2568 ภาพรวมเศรษฐกิจไม่น่าจะแย่กว่าปี 2567 อยากให้มีความเชื่อมั่นว่าจะเป็นแบบนี้ เนื่องจากมีปัจจัยสนับสนุน ได้แก่

 

(1)จากการพิจารณางบประมาณภาครัฐมีแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยอย่างที่ควรจะเป็นแล้ว แต่ถูกใช้ในนโยบายที่ตอบโจทย์หรือคุ้มค่ามากน้อยเพียงใด อันนี้เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

 

(2)ธุรกิจที่เป็นเสาหลักของไทย ทั้งท่องเที่ยว อาหาร โลจิสติกส์ ที่ยังมีโอกาสไปได้ต่อ แม้มีความกังวลในเรื่องภูมิรัฐศาสตร์ที่เปลี่ยนแปลงไป แต่เชื่อว่าตัวหลักๆ ที่ทำให้ไทยยืนระยะได้ยังไปต่อ

 

(3)ความเข้าใจของโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งเอสซีบี เวลธ์ เป็นฟันเฟื่องหนึ่งในการเปิดโอกาสการลงทุนของคนไทยให้กว้างขึ้นอีก โดยกรอบการเติบโตของจีดีพี เอสซีบี อีไอซี ประเมินว่าจะอยู่ประมาณ 2.5-3% ส่วนจะได้ที่เท่าใดยังต้องติดตามอีกครั้ง ในปีนี้มองนโยบายทางการเงินจะอยู่ในโหมดการผ่อนคลาย แม้การประชุมคณะกรรมนโยบายการเงิน (กนง.) หากไม่ลดอัตราดอกเบี้ยลงในครั้งล่าสุดนี้ แต่อย่างน้อยๆ ก็ต้องเห็นการปรับลดลงอีก 1 ครั้งในปีนี้แน่นอน เพื่อให้บรรยากาศในภาพรวมปรับดีขึ้น

 

ความเชื่อมั่นสำคัญสุด :

 

“ความผันผวนในตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือเศรษฐกิจในภาพรวม อยากให้เข้าไปดูในไส้ใน ว่าเป็นความผันผวนจากความเชื่อมั่นหรือเป็นเพราะปัญหาที่เกิดขึ้นจริง เพราะในหลายกรณีไม่ได้มีนัยยะของตัวเลขทางกำไรหรือเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไปจากเดิมมากนัก แต่เป็นความตกใจของตลาดเท่านั้น ซึ่งภาครัฐก็พยายามทำให้สถานการณ์ดีขึ้นอย่างเต็มที่ แม้มีการลดดอกเบี้ยของกนง.ลง

 

แต่ถามว่าจะเป็นตัวทำให้ความกังวลของเศรษฐกิจไทยลดลง และเกิดความต่อเนื่องได้หรือไม่ มองว่ายังต้องอาศัยความร่วมมือกันทั้งเรื่องบูรณาการความเชื่อมั่น ใช้ธรรมาภิบาลเป็นสิ่งสำคัญในการทำกรอบดำเนินการทุกเรื่อง รวมถึงความต่อเนื่องของนโยบายในประเทศไทยที่ควรจะเกิดขึ้น” นายกฤษณ์ กล่าว

 

สินเชื่อไม่โต-กระจุกตัว :

 

นายกฤษณ์ กล่าวว่า ภาพรวมสถาบันการเงินไทยอยู่ใกล้เคียงกัน การเติบโตของสินเชื่อไม่สูงนัก ผ่านการเติบโตของบริษัทขนาดใหญ่ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ หรือบ้านเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ในภาพรวมการเติบโตไม่ได้สูงมาก โอกาสการปรับเกณฑ์แอลทีวีของแบงก์ชาติ เพื่อให้การปล่อยสินเชื่อทำได้เพิ่มขึ้น ส่วนนี้มองว่าเป็นไปได้ เพราะขณะนี้ทุกสถาบันการเงินยังมีความระมัดระวังในการบริการจัดการปล่อยสินเชื่อให้สอดคล้องกับความเสี่ยงของสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้

 

โดยอัตราการเติบโตสินเชื่อใหม่ของธนาคารไทยพาณิชย์อยู่ในระดับต่ำแบบตัวเลขหลักเดียว กลุ่มลูกค้าบริษัทขนาดใหญ่ เอสเอ็มอีจะเป็นกลุ่มซัพพลายเชนของบริษัทขนาดใหญ่ และบางเซกเมนต์ของธุรกิจสินเชื่อบ้านที่มีมูลค่ามากกว่า 5 ล้านบาท

 

ขณะที่ความเสี่ยงของบริบทหนี้เทียบต่อไตรมาสยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงมาก แม้มีโครงการคุณสู้เราช่วย จึงยังไม่เห็นการลดอัตราการเสียของหนี้ เพราะระยะเวลาสั้นมาก โดยต่อจากนี้นโยบายการเงินและการคลังต้องเดินควบคู่กัน สิ่งสำคัญคือ ต้องมีการออกโครงการหรือนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นคืนมายังมีความจำเป็น

 

กาง 3 ความท้าทาย :

 

นายกฤษณ์ กล่าวว่า ปัจจัยความท้าทายที่รออยู่ยังมีหลายเรื่อง ได้แก่ 

 

(1)ความเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์โลก ที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า เปลี่ยนแปลงผู้นำโลกของบางประเทศ ส่งผลกระทบกับพลวัตของภูมิรัฐศาสตร์โลกเปลี่ยนแปลวไป ซึ่งมีผลต่อเศรษฐกิจของแต่ละประเทศในแง่บวกหรือลบแตกต่างกัน ซึ่งต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป

 

(2)อย่าปิดโอกาสตัวเอง ต้องมองโจทย์ของการลงทุนในสถานการณ์นั้นๆ เป็นน่านน้ำใหม่ที่มีความกว้างใหญ่ มีความหลากหลายของสินค้าและบริการ ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงที่รับได้ และความต้องการของผลกำไรที่ต้แงการว่าจะเร็วหรือเท่าใด หากมีความเข้าใจ โอกาสที่จะบริหารความผันผวนก็ยังมีอยู่

 

(3)จุดที่มีความเสี่ยงของการบริหารความมั่งคั่ง คือ จังหวะที่มีความผันผวน เมื่อเป็นเจ้าของเงินเอง ไม่ได้มีความเป็นมืออาชีพ จะมีจุดวัดใจ หรือความทนแรงต้านไม่เหมือนกัน เพราะหากลงทุนเองอาจกลัวว่าจะเสียเงินต้น เสียกำไร ช้าเกินไป หรือไม่ทันท่วงที ซึ่งจุดนี้หากให้ผู้เชี่ยวชาญลงทุนให้ จะสามารถลดความเสี่ยงได้มากกว่า

 

ตั้งเป้าธุรกิจมั่งคั่งโต 2 หลัก :

 

นายกฤษณ์ กล่าวว่า ธุรกิจบริหารความมั่งคั่งทั่วโลก และประเทศไทยเติบโตต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 6% โดยคาดการณ์ว่าในปี 2571 ธุรกิจบริหารความมั่งคั่งในไทยจะมีสินทรัพย์มากกว่า 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ เอสซีบีมองเห็นโอกาสจากการเติบโตของตลาดและจากการเป็นสถาบันทางการเงินอันดับต้นๆ ของเมืองไทย จึงสามารถต่อยอดในการทำธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management) และสามารถช่วยวางแผนการเงินให้กับลูกค้าได้เต็มรูปแบบและครบวงจร

 

โดยมีเป้าหมายสำคัญในการเป็นธนาคารที่เป็นอันดับหนึ่งด้านธุรกิจบริหารความมั่งคั่งในประเทศไทย ภายในปี 2569 ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าในการบริหารจัดการในส่วนของการลงทุน เติบโตด้วยตัวเลข 2 หลักอย่างต่อเนื่อง

 

ที่มา มติชนออนไลน์

วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568