ไชน่าเดลีรายงานว่า นายหวัง อี้ สมาชิกกรมการเมือง ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกลางด้านการต่างประเทศพรรคคอมมิวนิสต์จีน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศจีน ให้สัมภาษณ์สื่อระหว่างการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติของจีน ตั้งแต่ประเด็นสงครามการค้า การเก็บภาษีศุลกากร การติดตั้งขีปนาวุธพิสัยกลาง ไปจนถึงความสัมพันธ์ระหว่างจีน-สหรัฐ

 

เมื่อถูกถามว่าจีนจะรับมือกับรัฐบาลสหรัฐชุดใหม่อย่างไร หลังจากสหรัฐกล่าวโทษจีนเรื่องเฟนทานิล ขู่ขึ้นภาษีจีน พร้อมกับเรียกร้องให้มีความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน นายหวังกล่าวว่า “ไม่มีประเทศใดที่ควรจะเพ้อฝันว่าเขาสามารถกดดันจีนและรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับจีนได้ในเวลาเดียวกัน การตีสองหน้านั้นไม่ดีต่อความมั่นคงในความสัมพันธ์ทวิภาคี รวมถึงการที่จะสร้างความไว้วางใจซึ่งกันและกัน”

 

ในกรณีเฟนทานิล นายหวังระบุว่า จีนได้ช่วยเหลือสหรัฐในหลายๆ ทางบนพื้นฐานด้านมนุษยธรรม แต่วอชิงตันไม่ควรตอบแทนความดีด้วยความชั่ว หรือแม้แต่กำหนดภาษีตามอำเภอใจต่อสินค้าจีน เพราะไม่มีประเทศใหญ่ที่รับผิดชอบใดๆ ควรทำเช่นนั้น

 

รัฐมนตรีต่างประเทศจีนยังกระตุ้นให้สหรัฐทบทวนสิ่งที่ประเทศได้รับจากสงครามภาษีและการค้าด้วยการตรวจสอบการขาดดุลการค้า การผลิต อัตราเงินเฟ้อ และชีวิตของประชาชน

 

“ความร่วมมือจะนำมาซึ่งผลประโยชน์ร่วมกันและชัยชนะร่วมกัน และจีนจะดำเนินมาตการตอบโต้การสร้างแรงกดดันตามอำเภอใจอย่างแน่นอน” หวังกล่าว และว่า เราหวังว่าฝ่ายสหรัฐจะฟังเสียงเรียกร้องจากประชาชนของทั้งสองประเทศ เห็นถึงแนวโน้มของยุคสมัย มองการพัฒนาของจีนอย่างเป็นกลางและมีเหตุผล และมีส่วนร่วมเชิงรุกกับจีนในการแลกเปลี่ยนเชิงปฏิบัติ

 

ด้านเจีย ชิงกั๋ว สมาชิกคณะกรรมการที่ปรึกษาการเมืองแห่งชาติชุดที่ 14 ของสภาประชาชนจีน และศาสตราจารย์ด้านอเมริกันศึกษาจากคณะศึกษานานาชาติ มหาวิทยาลัยปักกิ่ง กล่าวว่า การเก็บภาษีของวอชิงตันเป็นแนวทางที่สหรัฐใช้บ่อยครั้ง เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ของสหรัฐในโต๊ะเจรจาและชะลอการเติบโตของจีน อย่างไรก็ดี การพึ่งพาภาษีและเครื่องมือการบีบบังคับอื่นๆ เพื่อฟื้นฟูการผลิตภายในสหรัฐขึ้นมาใหม่จะไม่ได้ผล แต่มันจะทำให้ธุรกิจของสหรัฐขาดความสามารถในการแข่งขันในตลาด และสูญเสียตลาดโลกไป

 

เมื่อถูกถามเกี่ยวกับแผนการของสหรัฐในการติดตั้งขีปนาวุธระยะกลางในภูมิภาค นายหวังกล่าวว่า “จีนคัดค้านอย่างยิ่ง และประเทศต่างๆ ในภูมิภาคก็ไม่ยินดีด้วยเช่นกัน

 

พร้อมกันนี้ นายหวังยังตั้งคำถามว่า วอชิงตันได้ทำอะไรให้กับประเทศในภูมิภาคหลังจากที่เปิดตัว “ยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก” มาหลายปีแล้ว โดยระบุว่า “ไม่มีอะไรเลย นอกจากการก่อความวุ่นวายและสร้างความแตกแยก จริงๆ แล้ว มันไม่ได้ประสบความสำเร็จ มีแต่ความล้มเหลวมากมาย”

 

ผู้สื่อข่าวถามถึงนโยบาย “อเมริกาก่อน” ของสหรัฐ อาทิ การถอนตัวจากองค์กรระหว่างประเทศ และว่ามันจะเป็นโอกาสดีสำหรับจีนในการดึงดูดประเทศอื่นๆ มายืนข้างจีนหรือไม่ นายหวังอ้างคำพูดซึ่งเป็นที่นิยมในโลกตะวันตกที่ว่า “ไม่มีมิตรแท้ มีแต่ผลประโยชน์ถาวร” แต่พวกเราในจีนเชื่อว่ามิตรแท้นั้นคงทนถาวร และเราควรแสวงหาผลประโยชน์ร่วมกัน”

 

นายหวังกล่าวด้วยว่า จีนยินดีที่ได้เห็นประเทศมากกว่า 100 ประเทศสนับสนุนข้อริเริ่มระดับโลกทั้ง 3 แผนของจีน และประเทศต่างๆ มากกว่า 3 ใน 4 ของโลกยังเข้าร่วมกับการสร้างหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง โดยกล่าวเสริมว่า “ประวัติศาสตร์จะพิสูจน์ว่า ผู้ชนะที่แท้จริงคือผู้ที่คำนึงถึงผลประโยชน์ของทุกคน”

 

ที่มา มติชนออนไลน์

วันที่ 9 มีนาคม 2568