"เงินฝืด" จีนยังสาหัส เงินเฟ้อติดลบเป็นครั้งแรกในรอบ 13 เดือน
"เงินฝืด" จีนสาหัสฉุดรั้งเศรษฐกิจ หลังดัชนี CPI ‘เงินเฟ้อ’ เดือน ก.พ. ออกมาต่ำคาด ลดลง 0.7% ติดลบเป็นครั้งแรกในรอบ 13 เดือน
บลูมเบิร์กรายงานว่าสำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเผยแพร่ ดัชนีผู้บริโภค(CPI) ซึ่งเป็นเกณฑ์วัดเงินเฟ้อ เดือนก.พ. ปรับตัวลง 0.7% ซึ่งเป็นการลดลงต่ำกว่าศูนย์เป็นครั้งแรกในรอบ 13 เดือน สะท้อนแรงกดดันภาวะ “เงินฝืด” ต่อเศรษฐกิจ
ดัชนีราคาผู้บริโภคลดลง 0.7% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งแตกต่างจากเดือนก่อนหน้าที่เพิ่มขึ้น 0.5% ตัวเลขนี้ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ทุกคนในการสำรวจของ Bloomberg คาดการณ์ไว้ โดยค่ากลางของการคาดการณ์อยู่ที่ 0.4%
ดัชนี CPI พื้นฐานของจีน (ไม่รวมสินค้าที่ราคาผันผวน เช่น อาหารและพลังงาน) ลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2564 โดยลดลง 0.1% นับเป็นเพียงครั้งที่สองในรอบกว่า 15 ปีที่ดัชนีนี้หดตัว ในขณะที่ภาคการผลิตของจีนประสบกับภาวะเงินฝืดต่อเนื่องยาวนานถึง 29 เดือนแล้ว
การลดลงของราคาบริการพร้อมกับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ติดลบ แสดงให้เห็นถึงการบริโภคที่ซบเซา โดยข้อมูลของ Goldman Sachs Group Inc. รายงานว่า แม้จะมีการปรับตัวเลขเพื่อชดเชยผลกระทบจากวันหยุดตรุษจีนที่มาเร็วกว่าปกติแล้ว แต่อัตราเงินเฟ้อผู้บริโภคก็ยังชะลอตัวลงจนถึงระดับที่อ่อนแอที่สุดในรอบหลายเดือน
จือเว่ย จางประธานและหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Pinpoint Asset Management กล่าวว่า เศรษฐกิจของจีนยังคงเผชิญกับแรงกดดันด้านภาวะ “เงินฝืด” และอุปสงค์ภายในประเทศยังคงอ่อนแอ
สำนักงานสถิติได้อธิบายว่าหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้อัตราเงินเฟ้อลดลงคือผลกระทบจากฐานที่สูงในปีที่แล้ว ซึ่งเกิดจากราคาที่พุ่งสูงขึ้นในช่วงการใช้จ่ายเทศกาลตรุษจีน
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
วันที่ 10 มีนาคม 2568