"องค์การการค้าโลก" ปรับลดคาดการณ์การค้าสินค้าโลกปี 2568 ให้หดตัว 0.2% จากภาษีนำเข้าสูงของสหรัฐ คาดการณ์ว่าการค้าโลกจะฟื้นตัว 2.5% ในปี 2569 แม้จะมีความกังวลเรื่องเงินเฟ้อจากมาตรการตอบโต้ระหว่างประเทศ

 

องค์การการค้าโลก (WTO) ปรับลดคาดการณ์ปริมาณการค้าโลกสำหรับปี 2568 ลง เนื่องจากความไม่แน่นอนของการค้าโลกจากนโยบายด้านภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ

 

WTO ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่นครเจนีวา คาดการณ์ว่าปริมาณการค้าสินค้าโลกจะลดลง 0.2% ในปี 2568 ซึ่งต่ำกว่าที่ควรจะเป็นเกือบ 3.0% หากไม่มีสงครามการค้าที่นำโดยสหรัฐ นับเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงจากความคาดหวังในช่วงต้นปี อย่างไรก็ตาม คาดว่าการค้าจะฟื้นตัวขึ้น 2.5% ในปี พ.ศ. 2569

 

 

การไหลเวียนของสินค้าและบริการทั่วโลกซึ่งผ่านช่วงผันผวนในระหว่างการระบาดของโควิด เพิ่งกลับสู่รูปแบบปกติก่อนที่โดนัลด์ ทรัมป์จะได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีสหรัฐในเดือน พ.ย. ทรัมป์หาเสียงด้วยคำมั่นที่จะฟื้นฟูชนชั้นกลางของอเมริกาด้วยการใช้มาตรการภาษีที่มุ่งเป้าไปที่จีนและประเทศอื่นๆ ที่สหรัฐมีการขาดดุลการค้าสูง

 

เมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ทรัมป์ได้ประกาศภาษีนำเข้าแบบ "ตอบโต้เท่าเทียม" (reciprocal) ในอัตรา 10% ถึง 50% อย่างไรก็ตาม หลายวันต่อมาเขาได้ระงับอัตราสูงสุดไว้เป็นเวลา 90 วัน และคงอัตรา 10% เป็นขั้นต่ำสำหรับทุกประเทศยกเว้นจีน ซึ่งการส่งออกไปยังสหรัฐต้องเผชิญกับภาษีเกินกว่า 100% การผ่อนปรนนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้เวลาในการเจรจาทวิภาคี โดยคณะผู้แทนจากญี่ปุ่นกำลังเยือนทำเนียบขาวเพื่อการเจรจาในวันนี้ (17 เม.ย.)

 

ในการคาดการณ์ของ WTO ระบุว่า การหดตัวของการค้าในปีนี้จะแย่ลงอีกหากสหรัฐผลักดันให้มีการใช้ภาษีตอบโต้ในระดับที่สูงขึ้น "ภาษีตอบโต้และความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าที่แพร่กระจายจะนำไปสู่การลดลง 1.5% ของการค้าสินค้าโลกในปี พ.ศ. 2568" WTO กล่าวในรายงานเมื่อวันพุธ

 

แม้ว่านโยบายคุ้มครองการค้าอาจเพิ่มการผลิตภายในประเทศ เพิ่มรายได้ และลดความไม่สมดุลทางการค้า ซึ่งทั้งสามข้อเป็นเป้าหมายที่ทรัมป์ระบุไว้ แต่ WTO กล่าวว่า "ในระยะกลางถึงระยะยาว ภาษีนำเข้าที่สูงขึ้นมักจะมีผลกระทบทางลบโดยรวมต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการค้า"

 

เพื่อตอบโต้มาตรการของทรัมป์ จีนได้ตอบโต้ด้วยการเก็บภาษีของตนเอง รวมถึงมาตรการอื่นๆ ที่มุ่งเป้าไปที่บริษัทสหรัฐและจำกัดการเข้าถึงการส่งออกวัตถุดิบสำคัญ

 

WTO เตือนว่าวงจรของการตอบโต้กันไปมาอาจนำไปสู่ค่าครองชีพที่สูงขึ้น :

 

"มาตรการตอบโต้ต่อนโยบายการค้าที่เข้มงวด เช่น ภาษีสำหรับวัสดุหรือสินค้าขั้นกลางที่หาสิ่งทดแทนได้ยาก อาจส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อเงินเฟ้อ หรืออย่างน้อยก็ต่อความคาดหวังเงินเฟ้อ" องค์กรการค้ากล่าวในรายงาน

ผลกระทบต่อภูมิภาคต่างๆ

 

การค้าในอเมริกาเหนือจะได้รับผลกระทบมากที่สุด ในขณะที่เอเชียและยุโรปจะยังคงเห็นการเติบโตที่ค่อนข้างน้อย

 

อย่างไรก็ตาม WTO เตือนว่าการหยุดชะงักอย่างมากในการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอาจทำให้ผู้ส่งออกจีนมองหาตลาดใหม่

 

"การหยุดชะงักในการค้าสหรัฐ-จีนคาดว่าจะกระตุ้นให้เกิดการเบี่ยงเบนทางการค้าที่สำคัญ สร้างความกังวลในตลาดที่สามเกี่ยวกับการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจากจีน" WTO ระบุ

 

การค้าบริการก็จะได้รับผลกระทบเช่นกัน WTO คาดการณ์ว่าบริการเชิงพาณิชย์จะเติบโต 4.0% ในปีนี้และ 4.1% ในปี พ.ศ. 2569 เทียบกับ 6.8% ในปีที่แล้ว

 

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ

วันที่ 17 เมษายน 2568