กระทรวงพาณิชย์ของจีนระบุเมื่อวันที่ 21 เมษายนว่า จีนเคารพทุกฝ่ายที่พยายามแก้ไขความขัดแย้งทางเศรษฐกิจและการค้ากับสหรัฐผ่านการเจรจาบนพื้นฐานที่เท่าเทียมกัน แต่จีนจะต่อต้านอย่างแข็งกร้าวหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งพยายามทำข้อตกลงโดยให้จีนเป็นฝ่ายเสียประโยชน์

 

กระทรวงพาณิชย์จีนบอกว่า จีนจะใช้มาตรการตอบโต้ที่เด็ดขาดและเท่าเทียมเป็นการต่างตอบแทน หากประเทศใดก็ตามพยายามทำข้อตกลงลักษณะดังกล่าว

 

แถลงการณ์ของกระทรวงพาณิชย์จีนมีขึ้นหลังมีรายงานข่าวก่อนหน้านี้ว่า รัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมที่จะกดดันประเทศอื่นๆ ให้จำกัดการค้ากับจีน เพื่อแลกกับการได้รับยกเว้นภาษีจากสหรัฐ

 

กระทรวงยังย้ำด้วยว่า จีนมีความมุ่งมั่นและมีศักยภาพเพียงพอที่จะปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของตนเอง

 

ขณะที่ นายเซี่ย เฟิง เอกอัครราชทูตจีนประจำสหรัฐอเมริกา ออกมาเรียกร้องให้สหรัฐแสวงหาจุดร่วมกับจีน และมุ่งไปสู่การอยู่ร่วมกันอย่างสันติ พร้อมทั้งเตือนว่า จีนพร้อมที่จะตอบโต้ในสงครามการค้าทวีความรุนแรงขึ้นด้วยเช่นกัน

 

เซี่ยกล่าวว่า ภาษีศุลกากรจะส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจโลก และเปรียบเทียบสถานการณ์นี้กับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ (Great Depression) และมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐยุคประธานาธิบดีเฮอร์เบิร์ต ฮูเวอร์ ในปี 1930 ที่ทำให้เกิดผลกระทบรุนแรงตามมา และยิ่งซ้ำเติมให้ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ทวีความรุนแรงขึ้น

 

เซี่ยอ้างถึงแนวคิดจากศาสตร์แพทย์แผนจีนที่ให้ความสำคัญการสร้างสมดุลระหว่างพลังหยินและหยาง โดยย้ำว่า ความกลมกลืนควรเป็นแนวทางในความสัมพันธ์ระหว่างสองมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลก

 

“สูตรยาแผนโบราณจีนที่ดีมักจะประกอบด้วยสมุนไพรหลากชนิดที่เสริมฤทธิ์ซึ่งกันและกัน เพื่อให้เกิดผลทางการแพทย์ที่ดีที่สุด ในทำนองเดียวกัน โลกใบนี้ก็ใหญ่พอที่สำหรับทั้งจีนและสหรัฐ เราควรอยู่ร่วมกันอย่างสันติมากกว่าที่จะปะทะกันโดยตรง และช่วยเหลือซึ่งกันและกันให้ประสบความสำเร็จ แทนที่จะจบลงด้วยสถานการณ์ที่ทั้งสองฝ่ายต่างเสียหาย” เซี่ยกล่าว

 

เอกอัครราชทูตจีนประจำสหรัฐกล่าวด้วยว่า จีนไม่เห็นด้วยกับสงครามการค้า และพร้อมจะตอบโต้ประเทศใดก็ตามที่ใช้มาตรการภาษีกับจีน

 

ที่มา มติชนออนไลน์

วันที่ 21 เมษายน 2568