บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จัดงาน Asia Pacific C&I Future Energy Summit 2025 โดยในงานเสวนา ผู้ประกอบการภาคเอกชนในอุตสาหกรรมพลังงานได้ประเมินว่า ขณะนี้ในประเทศไทย โดยเฉพาะภาคเอกชนมีความต้องการพลังงานหมุนเวียนเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น หัวเว่ยฯจึงมีแผนให้ทีมวิจัยและพัฒนา (R&D) ทำการศึกษาการรูปแบบพลังงานประเภทต่าง ๆ เพิ่มเติมจากโซลูชั่นที่มีอยู่ หากมีความเป็นไปได้ในอนาคตอาจนำไปสู่การลงทุนธุรกิจพลังงานหมุนเวียนในประเทศไทย

 

สำหรับการดำเนินงานของหัวเว่ยฯ ในประเทศไทย ยังคงเน้นย้ำบทบาทในการขับเคลื่อนนวัตกรรมและความยั่งยืนในภูมิภาคนี้ ด้วยการพัฒนาและบริการโซลูชั่นด้านพลังงานหมุนเวียน รวมถึงเทคโนโลยีการกักเก็บพลังงานเข้ามาบริการลูกค้า เช่น ระบบ C&I Smart Hybrid Cooling ESS โซลูชั่นจากการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ โซลูชั่นการชาร์จของผู้บริโภคในรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ส่งผลให้หัวเว่ยฯขึ้นเป็นผู้นำอันดับ 1 ในตลาดตอนนี้ ทั้งในแง่ของยอดขายและผู้พัฒนาโซลูชั่นที่ครบวงจร

 

ทั้งนี้ ภาคเอกชนเห็นตรงกันว่า พลังงานสะอาดในไทยมีแนวโน้มเติบโตดี เห็นได้จากนักลงทุนในกลุ่ม Data Center ที่เตรียมลงทุนในไทย ซึ่งกลุ่มนี้เป็นอาคารที่ใช้ไฟฟ้าค่อนข้างมากและต้องเป็นพลังงานสะอาด การที่หัวเว่ยฯเข้ามาให้บริการโซลูชั่นพลังงานสะอาด มันคือการเข้ามาซัพพอร์ตเพื่อให้ประเทศไทยเป็น Digital Hub ของภูมิภาคให้ได้ อย่างไรก็ตาม บริษัทยังต้องรอความชัดเจนในการขายไฟให้รัฐจากการกักเก็บพลังงาน หากปลดล็อกส่วนนี้ เชื่อว่าความต้องการใช้พลังงานสะอาดหรือแม้แต่การติดแผงโซลาร์เซลล์ในประเทศไทยจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก

 

นายแจ็ค ตง ประธานฝ่ายขายและบริการระบบ PV ภาคพาณิชย์และอุตสาหกรรมระดับโลก Huawei Digital Power บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ปัจจุบันเทรนด์การพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน (Environment, Social และ Governance หรือ ESG) ของโลก ยังทำให้ทุกองค์กรพยายามลดการใช้พลังงานที่ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ พยายามดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อม และมุ่งหน้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนและเป็นศูนย์ (Net Zero) เช่นเดียวกับประเทศไทยที่ต้องการจะเป็น Digital Hub

 

ดังนั้น ไม่เพียงภาครัฐที่ต้องมีนโยบายสนับสนุนพลังงานสะอาด ตามแผน PDP แล้ว แต่ละองค์กรจำเป็นต้องเร่งมือในการทำเป้าหมายดังกล่าวให้สำเร็จ ลูกค้ารายใหญ่ และในอนาคตระดับครัวเรือน จะหันมาใช้โซลูชั่นเหล่านี้มากขึ้น

 

“เราภูมิใจกับการเปิดตัว LUNA2000-215 Series ซึ่งเป็นระบบกักเก็บพลังงาน (ESS) แบบระบายความร้อนแบบไฮบริดสำหรับภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม (C&I) ระบบกักเก็บพลังงานนี้ คือ ผู้นำในอุตสาหกรรมด้วยคุณสมบัติเด่น 6 ประการ ได้แก่ ประสิทธิภาพโดยรวมสูงถึง 91.3% สามารถใช้งานได้เต็มศักยภาพ ความปลอดภัยเชิงรุก การเดินระบบและการบำรุงรักษาอัจฉริยะ ใช้งานง่ายไม่ยุ่งยาก และมีความยืดหยุ่นสูง ใช้งานได้กับทุกโซลูชั่น ทั้งหมดนี้ล้วนตอกย้ำความมุ่งมั่นของเราในการสร้างอนาคตที่ทุกคนสามารถเข้าถึงพลังงานแสงอาทิตย์ ระบบกักเก็บพลังงาน และการชาร์จได้ทุกหนทุกแห่ง”

 

ที่มา ประชาชาติธุรกิจ

วันที่ 5 พฤษภาคม 2568