รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ สก็อตต์ เบสเซนต์ จะเดินทางไปยังสวิตเซอร์แลนด์ในช่วงปลายสัปดาห์นี้เพื่อเจรจาการค้ากับจีนนำโดยรองนายกรัฐมนตรีเหอ หลี่เฟิงของจีน

 

บลูมเบิร์กรายงานวันนี้( 7พ.ต.) ว่ารัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ สก็อตต์ เบสเซนต์ และจามีสัน กรีเออร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ(USTR)  จะเดินทางไปยังสวิตเซอร์แลนด์ในช่วงปลายสัปดาห์นี้เพื่อเจรจาการค้ากับจีน โดยมีรองนายกรัฐมนตรีเหอ หลี่เฟิงเป็นผู้นำการเจรจาฝ่ายจีน ซึ่งเป็นเปิดการเจรจาครั้งแรกระหว่างทั้งสองประเทศ

 

การเดินทางดังกล่าวได้รับการประกาศในแถลงการณ์เมื่อวันอังคารจากรัฐบาลจีนและสหรัฐฯ ซึ่งจะเป็นการเจรจาการค้าครั้งแรกที่ได้รับการยืนยันระหว่างทั้งสองประเทศ นับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศตั้งกำแพงภาษีศุลกากรครั้งใหญ่ ซึ่งนำโดยการจัดเก็บภาษีกับสินค้าจีน

 

การเจรจาที่วางแผนไว้ดังกล่าวอาจช่วยเรียกเชื่อมั่นของนักลงทุนที่อยากเห็นการลดภาษีศุลกากรลง ซึ่งเสี่ยงต่อการทำลายการค้าระหว่างสองเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของโลก ทรัมป์กำหนดภาษีนำเข้าสินค้าจีนหลายรายการสูงถึง 145% และปักกิ่งตอบโต้ด้วยการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าอเมริกัน 125%

 

ทรัมป์ยังสร้างความสับสน :

 

การขึ้นภาษีตอบโต้กันดังกล่าวทำให้ตลาดเกิดความปั่นป่วนและคุกคามที่จะผลักดันให้ราคาอุปกรณ์เครื่องจักรสูงขึ้น รวมถึงสินค้าราคาไม่แพงที่ชาวอเมริกันจำนวนมากพึ่งพา เช่น เสื้อผ้าและของเล่น ทรัมป์กล่าวเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาว่าเขายินดีที่จะลดภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนณจุดใดจุดหนึ่ง แต่ในสัปดาห์นี้ เขาก็พูดด้วยว่าสหรัฐฯ "ไม่ได้สูญเสียอะไร" จากการไม่ทำการค้ากับปักกิ่ง เขาอ้างว่าเรือของจีนกำลัง "เปลี่ยนทิศทางในมหาสมุทรแปซิฟิก" ประธานาธิบดียังกล่าวอีกว่าผู้บริโภคชาวอเมริกันยินดีที่จะยอมรับราคาที่สูงขึ้นและตัวเลือกน้อยลงเพื่อสร้างสมดุลใหม่ให้กับความสัมพันธ์ทางการค้ากับจีน

 

ทรัมป์กล่าวในรายการ Meet the Press ของทีวีเอ็นบีซี เมื่อวันอาทิตย์ว่าเด็กหญิงไม่จำเป็นต้อง "มีตุ๊กตา 30 ตัว" "ผมคิดว่าพวกเขาสามารถมีตุ๊กตา 3 หรือ 4 ตัวได้ เพราะสิ่งที่เรากำลังทำกับจีนนั้นเหลือเชื่อมาก"

 

จีนกล่าวเมื่อวันศุกร์ว่ากำลังประเมินความเป็นไปได้ของการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ ซึ่งเป็นสัญญาณแรกที่บ่งบอกว่าการเจรจาระหว่างสองฝ่ายจะเริ่มขึ้น

 

เตือนหุ้นลงต่อหากสหรัฐยังคงภาษีจีนระดับสูง :

 

ก่อนหน้านี้ในวันอังคาร เบสเซนต์กล่าวว่าแม้ว่าสหรัฐฯ อาจประกาศข้อตกลงการค้ากับพันธมิตรบางรายได้ในสัปดาห์นี้ แต่การเจรจากับจีนยังไม่ได้เริ่มต้น

 

เขากล่าวต่อสมาชิกรัฐสภาขณะให้ปากคำที่รัฐสภาแคปิตอลฮิลล์ว่า "เรายังไม่ได้เจรจากับจีน"

 

นักลงทุนมหาเศรษฐี พอล ทิวดอร์ โจนส์ คาดการณ์เมื่อวันอังคารว่าทรัมป์อาจลดภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนลงครึ่งหนึ่ง แต่เขาเตือนว่าอาจไม่เพียงพอที่จะป้องกันไม่ให้ตลาดหุ้นร่วงลงต่อ

โจนส์ ผู้ก่อตั้งกองทุนป้องกันความเสี่ยง

 

ด้านมหภาค Tudor Investment Corp หรือเฮดจ์ฟันด์ กล่าวกับซีเอ็นบีซี ว่า "ทรัมป์มีท่าทีแน่วแน่ต่อภาษีนำเข้าสินค้า ส่วนเฟดก็มีท่าทีแน่วแน่ไม่ลดอัตราดอกเบี้ย จึงไม่ดีต่อตลาดหุ้น"

เบสเซนต์และกรีเออร์จะเข้าพบกับคาริน เคลเลอร์-ซัตเตอร์ ประธานาธิบดีสวิตเซอร์แลนด์ด้วย โดยกระทรวงการคลังและสำนักงาน USTR ระบุในแถลงการณ์

 

หุ้นขึ้นรับข่าวเจรจาการค้าจีน-สหรัฐ :

 

ด้านซีเอ็นบีซี รายงานว่า ดัชนีตลาดหุ้นซื้อขายล่วงหน้าปรับเพิ่มขึ้นในคืนวันอังคาร ขณะที่นักลงทุนติดตามข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับการเจรจาการค้าของสหรัฐฯ และมองไปที่การประกาศอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารกลางสหรัฐ ที่คาดว่าจะมีขึ้นในช่วงบ่ายวันพุธ

 

ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ Dow Jones Industrial Average futures เพิ่มขึ้น 270 จุด หรือเกือบ 0.7% ฟิวเจอร์สของ S&P 500 ฟิวเจอร์ เพิ่มขึ้น 0.8% ในขณะ Nasdaq 100 ฟิวเจอร์ เพิ่มขึ้นประมาณ 1%

 

ราคาทองคำร่วงหลังข่าวเจรจาการค้าจีน-สหรัฐ :

 

บลูมเบิร์กรายงานว่า เช้าวันพุธ(7 พ.ค.) ราคาทองคำร่วงลงถึง 1.6% หลังจากพุ่งขึ้นเกือบ 6% ในสองวันก่อนหน้า วอชิงตันและปักกิ่งประกาศว่า สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และจามีสัน กรีเออร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ จะเดินทางไปยังสวิตเซอร์แลนด์เพื่อพบกับเหอ หลี่เฟิง รองนายกรัฐมนตรีจีน

 

ราคาทองคำตลาดสปอตร่วงลง 0.9% เหลือ 3,399.56 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อเวลา 7.54 น.วันพุธตามเวลาสิงคโปร์ ดอลลาร์แข็งค่าโดยดัชนี Bloomberg Dollar Spot เพิ่มขึ้น 0.2% หยุดสถิติการลดลง 3 วันติดต่อกันมากกว่า 1% โดยราคาเงินร่วงลง ขณะที่แพลตตินัมและแพลเลเดียมปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย

 

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ

วันที่ 7 พฤษภาคม 2568