เขตที่ตั้งอยู่ใน "จุดเชื่อมต่อ" ระหว่างตลาดจีน ที่เป็นตลาดใหญ่ที่มีประชากรมากกว่า 1,400 ล้านคนกับตลาดอาเซียนที่มีประชากรเกือบ 700 ล้านคน อย่าง “กว่างซีจ้วง” อีกทั้งยังเป็นแหล่งพลังงาน และแหล่งผลิตบุคลากรที่มีทักษะในภาษาของชาติสมาชิกอาเซียน โดยมีแนวคิดการพัฒนาอุตสาหกรรม/ธุรกิจ AI ของ กว่างซี จึงต้องมุ่งเป้าความร่วมมือกับ “อาเซียน” 

 

ซึ่งการดำเนินการเชิงรุกด้านการส่งเสริมความร่วมมือด้าน AI ของเขตฯ กว่างซีจ้วงกับอาเซียน คือ การลงนามจัดตั้ง “ศูนย์ความร่วมมือด้านนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์จีน-ลาว” (China-Laos Arttificial Intelligence (AI) Innovation Cooperation Center) จากความร่วมมือระหว่างระฐบาลเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง (จีน) กับ สปป.ลาว เป็นแพลตฟอร์มความร่วมมือด้าน AI แห่งแรกที่จีนได้ร่วมลงนามกับชาติสมาชิกอาเซียน โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับขีดความสามารถขั้นพื้นฐานอย่างเป็นระบบของ สปป.ลาว ในยุค AI

 

โดยรัฐบาลกว่างซีได้ประกาศ “แผนปฏิบัติการ AI + การผลิต” กว่างซี ปี 2568-2570” ที่ระบุถึงเป้าหมายนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ (Breakthrough Technology ผลิตภัณฑ์อัจฉริยะและการใช้งาน AI ในรูปแบบต่างๆ การจัดตั้งสวนอุตสาหกรรม AI การบ่มเพาะวิสาหกิจ/องค์กรชั้นนำในห่วงโซ่อุตสาหกรรม AI 

 

รวมถึงการสนับสนุนการจัดตั้งแพลตฟอร์มการวิจัย พัฒนา และนวัตกรรม (Research Development and Innovation – RDI) สู่การเป็น “Highland ของอุตสาหกรรม/ธุรกิจ AI ที่มุ่งสู่อาเซียน” ที่นครหนานหนิงได้ตั้งเป้าหมายว่าจะดึงดูดเทคโนโลยี บริษัท และบุคคลระดับหัวกระทิ (Talent) ในแวดวง AI ให้เข้าไปรวมตัวกันที่นครหนานหนิง โดยอาศัยความ”ได้เปรียบ”ทำเลที่ตั้งอยู่ใกล้กับอาเซียน และความพร้อมด้านทรัพยากรบุคคลที่รู้ภาษาในอาเซียน นครหนานหนิงเป็นแหล่งบ่มเพาะนักศึกษาที่เรียนภาษาของชาติสมาชิกอาเซียนมากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศจีน 

 

ซึ่งที่ผ่านมา บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำจากทั้งในประเทศจีนและต่างประเทศ เช่น QAX Technology Group, CITIC Group, COL Group, Thailand Future Electronics ได้ทยอยเดินทางไปยังนครหนานหนิงเพื่อแสวงหาความร่วมมือด้านพัฒนาการการใช้งาน AI อาทิ การออกแบบการเรียนรู้ (Training Model) กระบวนการกำกับข้อมูลและสร้างชุดข้อมูลเพื่อนำไปให้ AI เรียนรู้ (Data Annotation) และการประยุกต์ใช้ AI + การศึกษา/การท่องเที่ยว/การใช้ชีวิตประจำวัน

 

ปัจจุบัน นครหนานหนิงนั้นมีแพลตฟอร์มด้าน AI ที่เปิดใช้งานแล้ว อาทิ ศูนย์พลังประมวลผล AI อวิ๋นห์กู่ (Wuxiang Yungu AI Computing Center) และศูนย์พลังประมวลผล AI จีน-อาเซียน (China-ASEAN AI Computing Center) ที่ตั้งอยู่ในเขตเมืองใหม่อู่เซี่ยง นครหนานหนิง พร้อมทั้งเร่งผลักดันแผนงานก่อสร้างแพลตฟอร์มอีกหลายโครงการ ได้แก่ (1) ศูนย์ข้อมูลระหว่างประเทศ (2) คลัสเตอร์ศูนย์ประมวลผล (3) คลังข้อมูลภาษาอาเซียน (4) แพลตฟอร์มอำนวยการพลังประมวลผล AI จีน-อาเซียน และนครหนานหนิงได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาหลักสูตรในสถาบันอุดมศึกษา เพื่อฝึกอบรมทักษะด้าน AI ที่มุ่งสู่อาเซียนและบ่มเพาะหัวกระทิด้าน AI ร่วมกับอาเซียน

 

สำหรับประเทศไทย หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนไทยสามารถใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มในเขตฯ กว่างซีจ้วง เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือด้าน AI ระหว่างไทยกับกว่างซี(จีน) โดยเฉพาะการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านการวิจัยและการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม AI ที่ตอบโจทย์ตลาดในสาขาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภาคธุรกิจ ภาคการศึกษา ภาคการแพทย์ รวมถึงการส่งเสรมการลงทุนของสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพและมีความสนใจภายใต้กลยุทธ์ “ก้าวออกไป(กว่างซี)” และ “เชิญเข้ามา(ไทย)” ซึ่งสามารถพัฒนาความ่วมมือในรูปแบบต่างๆ เช่น การร่วมทดลองใช้นวัตกรรมเพื่อการขยายตลาด 

 

นอกจากนี้ ประเทศไทยยังมี “ฝ่ายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี” ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณประชาชนจีน ที่เป้นอีกกลไกลที่สามารถสนับสนุนและแสวงหาแนวทางการพัฒนาความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมระหว่างไทยกับจีน ที่สถาบันการศึกษาและสตาร์ทอัพไทยสามารถใช้ประโยชน์ได้ด้วย (ข้อมูล สถานกงสุลใหญ่ ณ นครหนานหนิง, เรียบเรียงโดย ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์)

 

ที่มา globthailand

วันที่ 4 มิถุนายน 2568