การตอบรับการเจรจาภาษีจากสหรัฐ ถือเป็นสัญญาณเชิงบวกของประเทศไทย หลังกระทรวงพาณิชย์ได้รับหนังสือตอบรับอย่างเป็นทางการ

 

ไทยได้เริ่มตั้งทีมเจรจาทางเทคนิคระดับอาวุโส เพื่อเข้าสู่กระบวนการเจรจาผ่านระบบ Video Conference ท่ามกลางกรอบเวลากระชั้นชิด การเคลื่อนไหวครั้งนี้ สะท้อนความพยายามไทยในการรับมือภาษีตอบโต้ 36% ที่สหรัฐ จะบังคับใช้วันที่ 8 ก.ค.68 ซึ่งเป็นอัตราที่สูงและกระทบโดยตรงต่อผู้ส่งออกไทย ในฐานะประเทศคู่ค้าอันดับหนึ่งไทย สหรัฐมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจส่งออกของเรา การเจรจานี้จึงเป็นเดิมพันครั้งสำคัญที่ไทยต้องอย่าพลาด

 

ความเร่งด่วนเจรจาเป็นสิ่งที่เราต้องให้ความสำคัญ การที่คณะเจรจาของไทยตัดสินใจเจรจาผ่านระบบออนไลน์ แทนที่จะเดินทางไปสหรัฐ สะท้อนถึงความกังวลเรื่องเวลาที่เหลือเพียงหนึ่งเดือนก่อนเส้นตาย การตัดสินใจนี้แม้จะเข้าใจได้จากข้อจำกัดด้านเวลา แต่ก็อดตั้งคำถามไม่ได้ว่า การเจรจาผ่านระบบออนไลน์จะมีความศักดิ์สิทธิ์และมีประสิทธิภาพเทียบเท่าการเจรจาแบบเผชิญหน้าหรือไม่

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงความละเอียดอ่อน และผลประโยชน์มหาศาลที่เกี่ยวข้องกับการปรับลดอัตราภาษีจาก 36% ซึ่งเป็นภาระหนักอึ้งที่ผู้ประกอบการไทยแบกรับอยู่ การที่การเจรจาสามารถสรุปได้ภายในสัปดาห์หน้าตามที่เอกชนคาดหวัง จะส่งผลดีต่อการส่งออก เพราะจะช่วยให้สินค้าที่กำลังอยู่ระหว่างการขนส่งหลีกเลี่ยงผลกระทบจากภาษีที่กำลังมาถึงได้

 

ประเด็นเจรจาทั้ง 5 ข้อที่ไทยเตรียมไว้สำหรับการเจรจาครั้งนี้ มีเป้าหมายลดเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ 50% ภายใน 5 ปี และส่งเสริมความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ระยะยาว

 

อย่างไรก็ตาม โจทย์สำคัญ คือความแข็งแกร่งและประสบการณ์ของ “ทีมเจรจาทางเทคนิค” ของไทย ที่ต้องไม่เพียงเข้าใจรายละเอียดทางเทคนิคของข้อเสนอแต่ละข้ออย่างลึกซึ้ง แต่ยังต้องมีทักษะเจรจาที่ยอดเยี่ยม เพื่อผลักดันให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์สูงสุดกับไทย รวมถึงในสนามเจรจาระหว่างประเทศที่เต็มไปด้วยความซับซ้อน และผลประโยชน์ทับซ้อนไปมา การมีข้อมูลที่แน่นหนา การวิเคราะห์คู่เจรจาละเอียด และความยืดหยุ่นในการปรับกลยุทธ์ถือว่าจำเป็นอย่างยิ่ง

 

แม้สหรัฐจะเป็นตลาดส่งออกอันดับหนึ่งของไทย แต่การเผชิญหน้าอัตราภาษี 36% ชี้ว่าไทยกำลังเผชิญความท้าทายที่สำคัญ และต้องใช้ทุกกลยุทธ์ที่มี ลดผลกระทบเชิงลบให้น้อยที่สุด การเจรจาครั้งนี้ไม่เพียงจะส่งผลต่อภาพรวมส่งออกของไทย หากยังสะท้อนความสามารถของไทยในการรักษาผลประโยชน์ทางการค้าในเวทีโลกด้วย ความสำเร็จในการเจรจาจะขึ้นกับความพร้อมของทีมเจรจาทางเทคนิค ความแข็งแกร่งของข้อเสนอ ที่สามารถโน้มน้าวคู่เจรจาให้เห็นถึงประโยชน์ร่วมกันในระยะยาว ลุ้นคำตอบที่ควรจะเป็น “ความหวัง” ของไทยเมื่อการเจรจาเริ่มขึ้นอย่างจริงจัง

 

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ

วันที่ 10 มิถุนายน 2568