เทคโนโลยีเอไอสำคัญ ทรงอิทธิพลต่อโลกการตลาด การค้นหาข้อมูลแบรนด์ เปรียบเทียบสินค้าและบริการเข้าสู่ยุค Zero-Click Search เมื่อผู้บริโภคต้องการคำตอบทันที

 

เป็นอีกแวดวงที่ต้องเคลื่อนตัวเร็วให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของตลาด พฤติกรรมผู้บริโภค และเทคโนโลยี ต้องยกให้ “มีเดียเอเยนซี” เพราะการก้าวเกาะติดและปรับตัวให้ทันการเปลี่ยนแปลงมิติจะทำให้นักการตลาด เอเยนซี สามารถวางแผนงาน ขบคิดกลยุทธ์ ติดอาวุธช่วยลูกค้าในการทำแคมเปญสื่อสารการตลาดต่างๆได้ตรงใจกับผู้บริโภค

 

งาน dentsu DECODE 2025 ปีนี้มาในธีม “Humanising Algorithms” เน้นย้ำการเติบโตอย่างยั่งยืนต้องผสานพลังของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือ AI (Artificial Inteligence) ที่รู้จริง และสติปัญญาอันชาญฉลาดของมนุษย์หรือ PI (People Inteligence) ที่รู้ใจ

 

 

วิสาส์น สิริจันทานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจมีเดีย เดนท์สุ ประเทศไทย และ โอลิเวอร์ กิตติพงษ์ วีระเตชะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มด้านการตลาดและนวัตกรรม เดนท์สุ ประเทศไทย ให้นิยามโลกแห่งอนาคต ที่นักการตลาดมักจับยามสามตามคาดการณ์เทรนด์ตลาด พฤติกรรมผู้บริโภค เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงกลายเป็น “ขณะนี้” หรือ New Now ไปแล้ว บางเทรนด์ที่คาดการณ์จะเกิดขึ้นในอนาคต กลับเกิดขึ้นในวันนี้

 

เช่น การเกิดขึ้นของ "Agentic AI" ที่คาดจะเห็นในทศวรรษหน้า เกิดขึ้นแล้ว ด้านผู้บริโภคชาวไทยที่ยอมรับเทคโนโลยี “เร็วมาก” และหาก Agentic AI ทำงานครบถ้วนกระบวนความทั้งอีโคซิสเทม จะมีอิทธิพลต่อการเลือกใช้สินค้าของผู้บริโภคในชีวิตประจำวันได้ ซึ่งปัจจุบันสิ่งที่เกิดขึ้นคือการค้นหาข้อมูลสินค้าและบริการต่างๆ AI มัดรวมให้เรียบร้อย จนมีปรากฏการณ์ “Zero-Click Search” จาก “Google AI Overview”

 

คอนเทนต์ถาโถมกว่า 5,000 ชิ้นต่อวัน คนจำได้แค่ 50 ชิ้น :

 

ในโลกดิจิทัล คอนเทนต์เรียกว่ามีมากถล่มทลาย เพื่อตอบสนองความต้องการเสพรายการโปรดแตกต่างกันไป

เจาะลึกจำนวนคอนเทนต์ที่ผู้บริโภคเห็นมีมากกว่า 5,000 ชิ้นต่อวัน ทว่า “จดจำได้ไม่เกิน 50 ชิ้น” สะท้อนให้เห็นการแข่งขันของ “แบรนด์” ในการสร้างสรรค์เนื้อหาเพื่อสร้างการรับรู้กับกลุ่มเป้าหมาย

 

คอนเทนต์มากมาย ทำให้ AI เข้ามามีบทบาทสำคัญมากขึ้นในการช่วยออกแบบและกระจายเนื้อหาให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและถูกใจ

 

ไม่เพียงเนื้อหามากมาย ด้านผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายก็แยกยิบย่อยมากขึ้น สิ่งที่ย้ำนักการตลาดอย่างต่อเนื่องคือ ไม่มองลูกค้าเป้าหมายจากลักษณะประชากรศาสตร์แบบเดิมอีกต่อไป แต่ต้องเจาะลึกไปถึง “วัฒนธรรมผู้บริโภค” คนไทยกว่า 70 ล้านคน ทั้งพฤติกรรม ความชอบ บริบทต่างๆ เพื่อให้การสร้างสรรค์คอนเทนต์ตอบโจทย์ สิ่งที่ต้องการหรือ What to want ไม่ใช่จบแค่สิ่งที่ลูกค้าต้องการหรือ What you want

 

Zero-Click Search คอนเทนต์ต้องถูกจริต AI :

 

ปรากฏการณ์ Zero-Click Search กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น โดยพฤติกรรมผู้บริโภคหันไปค้นหาหรือ Search ข้อมูล คอนเทนต์ต่างๆ ผ่าน Al Chatbot ไม่ว่าจะเป็น ChaIGPT, Gemini และ Al Overviews ของ Google Search มากขึ้น เนื่องจากต้องการคำตอบทันที โดยเฉพาะข้อมูลเปรียบเทียบหรือข้อมูลเฉพาะบุคคล

 

จากข้อมูลใน Semrush พบว่า Al Chatbot Platforns มีผู้ใช้าน Gen AI ทั่วโลกรวมกว่า 697 ล้านคนต่อเดือน เติบโตกระฉูด 13-15 เท่าภายใน 1 ปี

 

ภาพดังกล่าวสะท้อนว่าผู้บริโภคใช้งาน “ไว้วางใจ” สิ่งที่ AI ประมวลผลหรือสรุปให้มากขึ้น โดยไม่ต้องทำการค้นหาต่อ ขณะที่ผ่านมาแบรนด์สู้กันด้วยการสร้างคอนเทนต์ ป้อน “คำสำคัญ” หรือ keyword เดียวกัน “ทุกแบรนด์คุยเรื่องเดียวกัน” อาจทำให้ผู้บริโภครู้สึกได้ประโยชน์อะไรกับตัวองบ้าง

 

“การค้นหาปัจจุบันเราอ่านแค่ AI Overview ซึ่งตอบสิ่งที่ผู้บริโภคอยากรู้ ในอดีตเดิมแบรนด์ต้องชนะในหน้าแรก ตอนนี้ไม่ใช่ คนดูเอไอหรือ Zero-Click Search ก่อน”

 

อนาคตหากเทคโนโลยีเอไอ รุดหน้าไปอีกขั้น อาจช่วยตัดสินใจเลือก หยิบ สินค้าให้ผู้บริโภคได้ แม้กระทั่งจ่ายเงินแทน

 

SEO สำคัญคู่ AEO :

 

เมื่อคนต้องการคำตอบในทันทีที่ค้นหาข้อมูล ทำให้การทำ SEO (Search Engine Optimization)สำคัญมากขึ้น แต่ขั้นกว่าคือต้องทำควบคู่กับ AEO (Answer Engine Optimization) ของเว็บไซต์ เพื่อให้ข้อมูลแบรนด์ปรากฏบนผลการค้นหาของ AI ในรูปแบบมัดรวมหรือสรุปคำตอบ

 

นอกจากนี้ สิ่งที่แบรนด์จะสื่อสารไม่ใช่แค่เชื่อมโยงกับผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย แต่ต้องตอบ “จริต AI” มากขึ้น เพื่อให้การสื่อสารไร้รอยต่อ ช่วยส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต

 

อย่างไรก็ตาม หากทำสิ่งเหล่านี้ได้ ประโยชน์ที่ตามมาคือ นักการตลาด แบรนด์จะมี “เวลาเหลือ” และเวลาที่เพิ่มขึ้น สามารถนำไปทำความเข้าใจธุรกิจ เข้าใจลูกค้า พัฒนาสินค้าให้ดีขึ้น ลึกขึ้นในอนาคตนั่นเอง

 

“ประโยชน์คือ เราจะมีเวลาใช้ชีวิตมากขึ้น”

 

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ

วันที่ 22 มิถุนายน 2568