ทุกวันนี้ สแกมเมอร์และเครือข่ายอาชญากรรมทางการเงิน ไม่ใช่เรื่องเล็กสำหรับประเทศไทยอีกต่อไป แต่กลายเป็นปัญหาที่แฝงตัวอยู่ในทุกมิติของชีวิต เศรษฐกิจ การเงิน การลงทุน

 

การทำธุรกรรมออนไลน์ และแม้กระทั่งความเชื่อมั่นของประชาชนต่อระบบรัฐ และสถาบันการเงิน การหลอกลวงผ่านคอลเซนเตอร์ การฟอกเงินจากเงินเทา หรือการใช้ตัวกลางนอมินี ล้วนสร้างความเสียหายทั้งต่อประชาชนและต่อระบบเศรษฐกิจในภาพรวม

 

ยังดีที่ล่าสุดกระทรวงการคลัง ตั้งคณะทำงาน “Connect the Dots” เพื่อไล่ตามเส้นทางการเงินปริศนา และเชื่อมโยงกับ “บอร์ดปราบสแกมเมอร์” ภายใต้การนำของ นายอนุทิน ชาญวีรกุล นายกรัฐมนตรี แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลเริ่มตื่นตัวต่อปัญหานี้ แม้ว่าจะดูเชื่องช้าไปมากก็ตาม อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ประชาชนตั้งคำถาม คือ ความต่อเนื่องและความจริงจังของมาตรการเชิงรุก เพราะปัญหานี้สะสมมาหลายปีและยังคงมีมูลค่าความเสียหายสูงอย่างต่อเนื่อง

 

มิติหนึ่งที่ต้องจับตา คือ ผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยโดยรวม หากเงินที่หมุนเวียนในระบบถูกเบียดบังหรือไหลออกไปสู่เส้นทางมืด เศรษฐกิจจะสูญเสียสภาพคล่อง การลงทุนภาคเอกชนอาจระงับชั่วคราว หรือเลวร้ายที่สุด ความเชื่อมั่นต่อสถาบันการเงินและรัฐบาลอาจสั่นคลอน เหมือนที่หลายประเทศเผชิญ

 

เมื่อรัฐไม่สามารถแก้ปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยีได้ทันท่วงที ในระดับสังคม ปัญหาสแกมเมอร์ยังสร้างความเสียหายต่อประชาชนโดยตรง ทั้งผู้บริโภคที่ถูกหลอกให้โอนเงินไปยังบัญชีปลอม หรือประชาชนที่ถูกละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล การสูญเสียเหล่านี้ไม่สามารถประเมินค่าได้ด้วยตัวเลขทางเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว แต่สะท้อนถึงความอ่อนแอของกลไกป้องกันและบังคับใช้กฎหมาย 

 

หลายประเทศเริ่มนำเทคโนโลยีการตรวจสอบและระบบสอดส่องทางการเงินขั้นสูงมาใช้เพื่อป้องกันปัญหา เช่น การวิเคราะห์เส้นทางเงินผิดปกติแบบเรียลไทม์ การบล็อกบัญชีต้องสงสัย การลงโทษทั้งผู้กระทำและผู้สนับสนุนอย่างเข้มข้น ซึ่งประเทศไทยจำเป็นต้องเดินตามแนวทางนี้ ไม่ใช่เพียงตั้งคณะทำงานหรือประชุมเชิงนโยบายเท่านั้น

 

บทเรียนสำคัญคือ “ความล่าช้า เท่ากับ ความเสียหาย” หากรัฐบาลยังปล่อยให้สแกมเมอร์ลอยนวล ปัญหาเหล่านี้จะกลายเป็นหนึ่งในปัจจัยที่บ่อนทำลายระบบเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของประชาชนในระยะยาว การจัดการต้องเป็นระบบ เชื่อมโยงทุกหน่วยงาน ทั้งกระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ ธปท. ก.ล.ต. ปปง. และกระทรวงดิจิทัลฯ พร้อมมาตรการติดตามผลที่ชัดเจนและโปร่งใส เพราะ สแกมเมอร์ คือ ปัญหาใหญ่ คือ “ภัยเศรษฐกิจและสังคม” ที่ต้องการความรับผิดชอบอย่างจริงจังจากรัฐบาล

 

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ

วันที่ 21 ตุลาคม 2568