เช้าวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ได้มีการจัดการประชุมประจำเดือนมกราคมของรัฐบาลภายใต้อำนวยการของนายกรัฐมนตรี ฝามมิงชิ้ง 

 

วัตถุประสงค์ของการประชุมนี้ก็เพื่อประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจ-สังคมในเดือนมกราคมและหน้าที่หลักในเดือนกุมภาพันธ์ สถานการณ์การปฏิบัติโครงการฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจ-สังคม การปฏิบัติ 3 โครงการเป้าหมายแห่งชาติได้แก่ โครงการสร้างสรรค์ชนบทใหม่ โครงการพัฒนาเศรษฐกิจ-สังคมในเขตชนกลุ่มน้อยและเขตเขาและโครงการแก้ปัญหาความยากจน ในการกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม นายกรัฐมนตรี ฝามมิงชิ้ง ได้กำชับให้เน้นรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค ควบคุมภาวะเงินเฟ้อ ผลักดันการขยายตัว ค้ำประกันความสมดุลต่างๆ เกาะติดสถานการณ์เศรษฐกิจ ราคา ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดทั้งภายในและต่างประเทศ 

 

การปรับเปลี่ยนและแนวโน้มใหญ่ ๆ ในโลก เป็นฝ่ายรุกและมีการพยากรณ์ความเสี่ยงอย่างทันการณ์เพื่อเสนอนโยบายที่เหมาะสม เป็นฝ่ายรุกในการปฏิบัตินโยบายด้านการเงินอย่างคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ ประสานงานในการปฏิบัตินโยบายด้านการเงิน งบประมาณและนโยบายอื่นๆ อย่างพร้อมเพรียงและใกล้ชิด  ค้ำประกันการชำระเงิน รักษาความปลอดภัยของระบบองค์กรสินเชื่อ ความมั่นคงด้านการเงิน ผลักดันการขยายตัวด้านสินเชื่อที่เหมาะสม ผลักดันการชำระโดยไม่ใช้เงินสด แก้ไขอุปสรรคให้แก่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ระดมเงินลงทุนเพื่อปฏิบัติโครงการที่มีประสิทธิภาพและสนับสนุนสถานประกอบการที่ดำเนินงานอย่างโปร่งใสและมีประสิทธิภาพ ระดมพลังทุกแหล่ง ดึงดูดการลงทุนจากสังคม 

 

ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชน ผลักดันการปฏิรูปราชการ การปรับปรุงบรรยากาศการประกอบธุรกิจ พัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ รัฐบาลดิจิทัล พลเมืองดิจิทัล เศรษฐกิจดิจิทัล เสร็จสิ้นการจัดทำและเชื่อมโยงฐานข้อมูลแห่งชาติโดยเร็ว เร่งเสร็จสิ้นการปฏิบัติงานด้านการวางผังตามแนวทางเปิดโอกาสและบรรยากาศการพัฒนาใหม่

นายกรัฐมนตรีฝ่ามมิงชิ้งได้กำชับให้กระทรวง หน่วยงานและท้องถิ่นผลักดัน 3 ก้าวกระโดดยุทธศาสตร์และเน้นพัฒนาการบริโภค การลงทุนและการส่งออกเพื่อสร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่การขยายตัวของเศรษฐกิจ

 

“ต้องรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค ควบคุมภาวะเงินเฟ้อ กระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจและค้ำประกันความสมดุลที่สำคัญ ซึ่งเพื่อปฏิบัติเป้าหมายดังกล่าว ต้องสร้างความสมดุลระหว่างอัตราการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศกับอัตราดอกเบี้ย อัตราการขยายตัวกับอัตราเงินเฟ้อ นโยบายการเงินกับงบประมาณและสถานการณ์ภายในประเทศและโลก ในการควบคุมภาวะเงินเฟ้อ ต้องเน้นควบคุมราคาข้าวและอาหาร วัสดุก่อสร้าง บริหารราคาสินค้าตามการชี้นำของรัฐ ค้ำประกันการจัดสรรสินค้าที่จำเป็น ช่วยเหลือสถานประกอบการลดค่าใช้จ่ายในการผลิต ลดภาษี ค่าธรรมเนียมและปฏิรูประเบียบราชการ”

นายกรัฐมนตรีได้สั่งให้ขยายการบริหารในด้านต่างๆ ผลักดันโครงการที่สำคัญ โดยเฉพาะการก่อสร้างถนนสายสำคัญ การเบิกจ่ายเงินลงทุน การส่งเสริมการค้า การเชื่อมโยงระหว่างอุปสงค์และอุปทาน การขยายตลาดส่งออก เพิ่มความหลากหลายให้แก่สินค้า ระบบห่วงโซ่อุปทานและพลังงาน

 

ที่มา vovworld.vn

วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566