นายกเทศมนตรีลอนดอนคาด เบร็กซิตทำศก.อังกฤษเสียหาย 6.2 ล้านล้านบาท
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายซาดิค ข่าน นายกเทศมนตรีกรุงลอนดอน เมืองหลวงของประเทศอังกฤษ ได้กล่าวเมื่อวันที่ 11 มกราคมว่า การที่อังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (อียู) หรือที่เรียกกันว่าเบร็กซิต (Brexit) ได้ทำให้ขนาดเศรษฐกิจของอังกฤษหดตัวลงไปแล้ว 6% หรือคิดเป็นมูลค่าความเสียหายต่อปีอยู่ที่ 1.78 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นเงินไทยราว 6.241 ล้านล้านบาท และเศรษฐกิจของอังกฤษอาจหดตัวลงถึง 10% ในปี 2035
นายข่าน ซึ่งเป็นสมาชิกของพรรคแรงงานที่โหวตคัดค้านการออกจากอียูในการทำประชามติในปี 2016 ได้อ้างอิงข้อมูลในรายงานของ Cambridge Econometrics ที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจ ที่ประมาณการว่าเศรษฐกิจของอังกฤษจะเติบโตเร็วแค่ไหนหากอังกฤษโหวตที่จะเป็นสมาชิกของอียูต่อไป
นายข่านระบุในสุนทรพจน์ที่เขาเตรียมขึ้นกล่าวในวันที่ 11 มกราคมว่า “ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าเบร็กซิตไม่ได้ผล การออกจากอียูในแบบที่เราทำกำลังฉุดรั้งเศรษฐกิจของเราและทำให้ค่าครองชีพพุ่งสูงขึ้น”
อย่างไรก็ดี การประมาณการมูลค่าความเสียหายของเบร็กซิตของ Cambridge Econometrics สูงกว่าการประมาณการของสำนักอื่นๆ ในช่วงเร็วๆ นี้ อาทิ สถาบันวิจัยเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่คาดการณ์ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาว่า เบร็กซิตทำให้เศรษฐกิจของอังกฤษหดตัวลง 2-3% และอาจเพิ่มขึ้นเป็น 5-6% ภายในปี 2035
ขณะที่นายโจนาธาน ฮัสเคิล ผู้กำหนดนโยบายของธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ คาดการณ์เมื่อปีที่แล้วว่า เบร็กซิตได้สร้างความเสียหายต่อการลงทุนทางธุรกิจจนทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (จีดีพี) ลดลง 1.3% ภายในปลายปี 2022 หรือคิดเป็นเท่ากับ 1,000 ปอนด์ตัวครัวเรือนต่อปี หรือเป็นเงินไทยราว 44,780 บาท
ทั้งนี้ Cambridge Econometrics เปิดเผยว่า เบร็กซิตอาจทำให้อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจรายปีของอังกฤษลดลง 0.4% ระหว่างตอนนี้จนถึงปี 2035 รวมถึงลดระดับการจ้างงานลง 3 ล้านคนภายในปี 2035 และลดการลงทุนราว 1 ใน 3
ที่มา มติชนออนไลน์
วันที่ 12 มกราคม 2567