ประวัติ ไล่ ชิงเต๋อ ประธานาธิบดีไต้หวัน ลูกคนงานเหมือง ผู้ทิ้งอาชีพแพทย์สู่การเมือง
ทราบผลเป็นที่แน่ชัดแล้วว่าผู้คว้าชัยในการเลือกตั้งไต้หวันในวันที่ 13 มกราคม 2024 คือ ไล่ ชิงเต๋อ (Lai Ching-Te) จากพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (Democratic Progressive Party : DPP) ซึ่งบริหารไต้หวันมา 8 ปี และยังคงได้รับการสนับสนุนจากประชาชนให้ไปต่ออีก 4 ปี
สำหรับประวัติ ไล่ ชิงเต๋อ ประธานาธิบดีคนใหม่ของไต้หวัน เขาเป็นที่รู้จักในชื่อภาษาอังกฤษว่า “วิลเลียม ไล” (William Lai) ก่อนชนะเลือกตั้งครั้งนี้ เขาเป็น “รองประธานาธิบดีไต้หวัน” และเป็นประธานพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (DPP)
ไล่ ชิงเต๋อ อายุ 64 ปี เกิดวันที่ 6 ตุลาคม 1959 ที่เมืองว่านหลี ซึ่งปัจจุบันอยู่ในนครนิวไทเป เขาเกิดในครอบครัวคนงานเหมืองถ่านหิน พ่อของเขาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 8 มกราคม 1960 จากพิษคาร์บอนมอนอกไซด์ ขณะทำงานในเหมืองถ่านหิน แม่ของเขาต้องเลี้ยงดูเขาและพี่น้องทั้ง 5 คนเพียงลำพัง ถึงแม้ครอบครัวจะลำบาก แต่เขาก็ได้รับการศึกษาระดับดีเยี่ยม และทำให้เขามีหน้าที่การงานที่ดี
เขาจบการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านการแพทย์ สาขาเวชศาสตร์ฟื้นฟู จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวัน (National Taiwan University) และได้รับประกาศนียบัตรเฉพาะทางด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติเฉิงกง (National Cheng Kung University) แล้วจบปริญญาโทสาขาสาธารณสุขศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard University) ทำให้เขาเป็นหนึ่งในแพทย์ไม่กี่คนในไต้หวันที่เชี่ยวชาญทั้งด้านการฟื้นฟูสมรรถภาพ การดูแลทางคลินิก และเชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข
ด้านชีวิตครอบครัว เขาแต่งงานกับอู๋ เหมยจู (Wu Mei-ju) ในปี 1986 ทั้งคู่มีลูกชายด้วยกัน 2 คน
หลังทำงานในอาชีพแพทย์มาเป็นเวลาหลายปี เขาเข้าสู่การเมืองจากการที่เขาเริ่มมีส่วนร่วมทางการเมืองในปี 1994 ขณะที่เขาอยู่ในตำแหน่งหัวหน้าแพทย์ประจำโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งชาติเฉิงกง ในเวลานั้นไต้หวันกำลังจะจัดการเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่นแบบทางตรงครั้งแรก และเขาได้มีส่วนร่วมในตำแหน่งหัวหน้าสมาคมแพทย์ไถหนานที่สนับสนุน เฉิน ถิงหนาน (Chen Ting-nan) จากพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (DPP) ชิงตำแหน่งผู้ว่าการเมืองไถหนาน
ต่อมาในช่วงเกิดวิกฤตการณ์ช่องแคบไต้หวันปี 1996 เขาตัดสินใจละทิ้งอาชีพแพทย์เพื่อเข้าสู่การเมืองอย่างเป็นทางการ ซึ่งในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนฯ (National Assembly representatives) ในปีนั้น เขาได้รับเลือกให้เป็นผู้แทนประชาชนจากเมืองไถหนาน
ในปี 1998 ไล่ ชิงเต๋อ ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัติโดยเป็นตัวแทนเมืองไถหนาน และด้วยการใช้ความเชี่ยวชาญทางการแพทย์ของเขา เขามีบทบาทสำคัญในคณะกรรมการสวัสดิการสังคมและสุขอนามัยสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งแก้ไขปัญหาในท้องถิ่นมากมายหลายประเด็น แล้วประชาชนเมืองไถหนานก็ตอบแทนโดยเลือกเขาให้ดำรงตำแหน่งสภานิติบัญญัติอีก นับเป็น 4 วาระติดต่อกัน (1998-2010)
ระหว่างดำรงตำแหน่งสภานิติบัญญัติ เขาได้รับเลือกจาก Citizen Congress Watch ให้เป็น “ผู้บัญญัติกฎหมายที่ดีที่สุด” ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำและทักษะการประสานงานในฐานะวิปของพรรค DPP
ในปี 2010 เทศมณฑลไถหนานและเมืองไถหนานถูกรวมเข้าด้วยกันเป็นเทศบาลพิเศษไถหนาน ไล่ ชิงเต๋อ ได้รับเลือกให้เป็นนายกเทศมนตรีคนแรก แล้วเขาก็สร้างชื่อเสียงในด้านการเป็นรัฐบาลท้องถิ่นที่มีความซื่อสัตย์ ทำงานอย่างขยันขันแข็ง และมีประสิทธิภาพ
ต่อมาในปี 2014 เขาลงสมัครรับเลือกตั้งอีกครั้ง โดยได้รับคะแนนเสียง 72.9% ซึ่งถือเป็นเปอร์เซ็นต์ที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ไถหนาน และสูงที่สุดสำหรับการเลือกตั้งผู้บริหารเทศมณฑลหรือผู้บริหารเมือง
ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2016 ไล่ ชิงเต๋อ เป็นหนึ่งในคนที่สมัครเป็นตัวแทนชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของพรรค DPP แต่พ่ายแพ้ให้กับ ไช่ อิงเหวิน (Tsai Ing-wen) และไช่ อิงเหวิน ก็คว้าชัยในการเลือกตั้งประธานาธิบดี จากนั้นไล่ เชิงเต๋อ ก็ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง “นายกรัฐมนตรี” ในปี 2017-2019 และต่อมาเขาได้เป็นรองประธานาธิบดี เมื่อไช่ อิงเหวิน ชนะการเลือกตั้งได้เป็นประธานาธิบดีสมัยที่สอง
ในเดือนมกราคม 2023 เขาได้รับเลือกให้เป็นประธานพรรค DPP ซึ่งเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าเขาจะเป็นตัวแทนชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2024 เมื่อไช่ อิงเหวิน อยู่ในตำแหน่งครบ 2 วาระ และไม่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งอีกได้
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ
วันที่ 13 มกราคม 2567