อินเดียผุดโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนใหญ่ที่สุดในโลก มูลค่ากว่า 8 หมื่นล้าน
โครงการก่อสร้างโรงผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมที่ใหญ่ที่สุดในโลก กำลังจะเกิดขึ้นที่ประเทศอินเดีย บริเวณที่ราบลานเกลือในรัฐคุชราต ที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในทะเลทรายเกลือขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จภายในสามปี
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ทีมพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนคาฟดา (Khavda) ที่ตั้งชื่อตามหมู่บ้านใกล้กับพื้นที่ของโครงการมากที่สุด เชื่อว่า เมื่อโครงการก่อสร้าง โรงไฟฟ้าแบบไฮบริด แห่งนี้ ซึ่งจะผลิตกระแสไฟฟ้าทั้งจาก พลังงานแสงอาทิตย์ และ พลังงานลม แล้วเสร็จ จะเป็นโรงไฟฟ้าที่มีขนาดที่ใหญ่มากที่สุดในโลก และใหญ่จนสามารถมองเห็นได้จากอวกาศเลยทีเดียว
ในเวลานี้ แรงงานหลายพันคนกำลังติดตั้งเสาสำหรับแผงโซลาร์เซลล์ที่เรียงกันไกลเป็นระยะสุดลูกหูลูกตา และบางส่วนกำลังสร้างฐานสำหรับติดตั้งกังหันลมขนาดใหญ่ สร้างสถานีย่อย และวางสายไฟเป็นระยะทางหลายกิโลเมตร
เมื่อโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จจะมีขนาดใหญ่เท่ากับพื้นที่ประเทศสิงคโปร์ โดยมีพื้นที่ครอบคลุมมากกว่า 726 ตารางกิโลเมตร และรัฐบาลอินเดียประมาณการว่า จะต้องใช้งบลงทุนอย่างน้อย 2,260 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 80,000 ล้านบาท
การเลือกสร้างโครงการในพื้นที่บริเวณนี้สร้างความประหลาดใจให้กับผู้คนไม่น้อยเลย เนื่องจากทะเลทรายสีขาวที่ชื่อว่า แรนน์ ออฟ คุตช์ (Rann of Kutch) ในรัฐคุชราตทางตะวันตกของอินเดีย เป็นทะเลทรายเกลือและพื้นที่ลุ่มที่มีสภาพภูมิอากาศที่รุนแรง ตั้งอยู่ห่างจากผู้คนราว 70 กิโลเมตร อีกทั้งยังอยู่ไม่ไกลจากชายแดนระหว่างอินเดียและปากีสถานอันเป็นจุดที่มีความตึงเครียดมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม เมื่อการก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ โครงการนี้จะผลิตพลังงานทดแทนได้ 30 กิกะวัตต์ต่อปี ซึ่งจะเพียงพอต่อความต้องการใช้ไฟฟ้าของประชากรอินเดียราว 18 ล้านหลังคาเรือน
อินเดียตั้งเป้าที่จะผลิตพลังงานสะอาดให้ได้ 500 กิกะวัตต์ภายในสิ้นทศวรรษนี้ เพื่อทำให้การปล่อยก๊าซคาร์บอน หรือก๊าซโลกร้อน ของประเทศอินเดียกลายเป็นศูนย์ (Zero Carbon) ภายในปีค.ศ. 2070 และโครงการพลังงานหมุนเวียนที่กำลังดำเนินการนี้ จะเป็นตัวต่อจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่จะนำอินเดียซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลกไปสู่การผลิตพลังงานจากแหล่งที่ไม่ก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนได้สำเร็จ
รายงานระบุว่า ปัจจุบัน อินเดียยังคงใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นหลัก โดยเฉพาะถ่านหิน ซึ่งผลิตไฟฟ้าให้กับอินเดียมากกว่า 70%
ทุกวันนี้ การใช้ไฟฟ้าที่มาจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนในอินเดียคิดเป็นสัดส่วนเพียงประมาณ 10% เท่านั้น และอินเดียก็เป็นประเทศที่ปล่อยก๊าซต้นเหตุของภาวะโลกร้อนเป็นอันดับที่สามของโลก รองจากประเทศจีนและสหรัฐอเมริกา
ผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมและนักเคลื่อนไหวทางสังคมในอินเดีย แสดงความกังวลเรื่องผลเสียที่อาจจะตามมา เนื่องจากอินเดียอนุญาตก่อสร้างโครงการพลังงานสะอาดขนาดอภิโปรเจกต์แห่งนี้ โดยไม่มีการประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
นายซานดีป เวอมานี นักสิ่งแวดล้อมในเขตคุตช์ รัฐคุชราต ให้ความเห็นว่า การไม่ประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้ไร้ระบบในการพิจารณาว่าพื้นที่บริเวณไหนเหมาะสมต่อการพัฒนาโครงการนี้มากที่สุด
ที่มา ฐานเศรษฐกิจ
วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567