มาแน่! รีแมตช์ในฝัน "ทรัมป์-ไบเดน" หลัง "นิกกี้ เฮลีย์" ถอนตัว
นางนิกกี้ เฮลีย์ ประกาศยุติการลงชิงชัยให้ได้รับการเสนอชื่อเป็นผู้แทนพรรครีพับลิกันในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปลายปีนี้อย่างเป็นทางการแล้ว เมื่อวันที่ 6 มีนาคม หลังพ่ายแพ้ให้กับทรัมป์ติดต่อกันมาอย่างต่อเนื่อง
เฮลีย์ซึ่งเป็นอดีตผู้ว่าการรัฐเซาท์แคโรไลนาและอดีตเอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรสหรัฐสหรัฐประจำสหประชาชาติในยุคของทรัมป์ ประกาศถอนตัวจากการแข่งขันหนึ่งวันหลังจากทรัมป์เอาชนะเธอได้แบบแทบไม่ต้องลุ้นในการแข่งขันใหญ่ซุปเปอร์ทิวสเดย์ด้วยชัยชนะ 14 จาก 15 รัฐและเขตแดนของสหรัฐที่มีการเลือกตั้งขั้นต้นพร้อมกัน
เฮลีย์กล่าวกับผู้สนับสนุนระหว่างการปราศรัยที่เมืองชาร์ลสตัน ในรัฐเซาท์แคโรไลนาว่า ถึงเวลาแล้วที่เธอจะต้องระงับการรณรงค์หาเสียง แต่เธอไม่เสียใจเลย และรู้สึกขอบคุณสำหรับการสนับสนุนที่ได้รับจากทั่วประเทศ เพราะเธอต้องการให้ชาวอเมริกันได้ยืนเสียงของพวกเขา และเธอก็ได้ทำมันแล้ว
เฮลีย์ยังบอกด้วยว่า มีความเป็นไปได้ที่ทรัมป์จะเป็นผู้สมัครที่ได้รับการเสนอชื่อจากพรรครีพับลิกัน แต่เธอไม่ได้ให้การรับรองทรัมป์ เพราะเธอมองว่าทรัมป์เต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวายมากเกินไป และยังมีความโกรธแค้นส่วนตัวที่จะต้องการเอาชนะประธานาธิบดีโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต ในการเลือกตั้งที่กำลัจะมีขึ้น
เฮลีย์กล่าวว่า ตอนนี้ก็ขึ้นอยู่กับทรัมป์ที่จะทำอย่างไรให้เขาได้รับคะแนนสนับสนุนจากผู้ที่อยู่ในพรรคของเรา และมากยิ่งไปกว่านั้นคือจากผู้ที่ไม่สนับสนุนเขา ซึ่งเธอหวังว่าทรัมป์จะทำเช่นนั้น เพราะในหนทางที่ดีที่สุด การเมืองคือการนำผู้คนมาสู่เป้าหมายของคุณ ไม่ใช่การปฏิเสธพวกเขา และเราก็จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้ผู้คนมาสนับสนุนแนวทางอนุรักษ์นิยมของเรามากขึ้น
ในฐานะที่เคยดำรงตำแหน่งในสหประชาชาติ เฮลีย์กล่าวว่าการยังคงสถานะผู้นำระดับโลกของสหรัฐต่อไปเป็นสิ่งสำคัญ โดยเธอย้ำตลอดการหาเสียงว่าสหรัฐจะต้องช่วยยูเครนปกป้องตัวเองจากการรุกรานของรัสเซีย ซึ่งเป็นจุดยืนที่ขัดแย้งกับทรัมป์ แต่เฮลีย์ยืนยันว่า หากเราถอยไปอีกก็จะเกิดสงครามมากขึ้น ไม่ใช่น้อยลง
ก่อนหน้าที่เฮลีย์จะประกาศถอนตัว เธอได้ปะทะและวิพากษ์วิจารณ์ทรัทป์อย่างรุนแรงหลายครั้ง และแม้หลังจากที่เธอประกาศถอนตัวแล้ว ดูเหมือนทรัมป์ก็จะไม่ได้มีทีท่าว่าจะลดทอนความรุนแรงของข้อความที่ส่งถึงเฮลีย์ลงเช่นกัน
ทรัมป์โพสต์บน Truth ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของเขาเองว่า ”นิกกี้ เฮลีย์ พ่ายแพ้ไปแล้วเมื่อคืนนี้ ในแบบที่สร้างสถิติใหม่“ นอกจากนี้ยังไม่ชัดเจนว่าทรัมป์ซึ่งเคยประกาศว่า ผู้บริจาคเงินสนับสนุนให้กับเฮลีย์จะถูกแบนจากการรณรงค์ของเขาอย่างถาวร ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความไม่แน่นอนว่า เขาจะสามารถรวบรวมพรรคที่แตกแยกอย่างลึกซึ้งได้ในท้ายที่สุดหรือไม่
ขณะที่ไบเดนได้ออกมายกย่องเฮลีย์ที่กล้าพูดความจริงเกี่ยวกับทรัมป์ พร้อมกับเชื้อเชิญผู้สนับสนุนของเธอให้หันมาสนับสนุนเขา
“โดนัลด์ ทรัมป์ แสดงให้เห็นชัดเจนว่าเขาไม่ต้องการผู้สนับสนุนของนิกกี้ เฮลีย์ แต่ผมก็ขอบอกให้ชัดเจนเช่นกันว่า มีที่สำหรับพวกเขาในการรณรงค์หาเสียงของผม” แถลงการณ์ของไบเดนระบุ
การถอนตัวของเฮลีย์ทำให้ทรัมป์มุ่งหน้าไปยังการรีแมตช์ระหว่างเขากับประธานาธิบดีไบเดนจากพรรคเดโมแครต ที่เป็นผู้นำในการคัดเลือกผู้สมัครประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครตเช่นกัน
ในเวลาต่อมา ทรัมป์ยังโพสต์เชิญชวนผู้สนับสนุนเฮลีย์ทุกคนให้เข้าร่วมการเคลื่อนไหวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ “ไบเดนเป็นศัตรู และเขากำลังทำลายประเทศของเรา ต้องทำให้อเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง”
ทรัมป์ยังแสดงความตั้งใจที่จะขึ้นดีเบตกับไบเดน แม้ว่าจะปฏิเสธไม่เข้าร่วมเวทีดีเบตใดๆ ก่อนหน้านี้ โดยทั่วไปแล้วการโต้วาทีระหว่างผู้สมัครของสองพรรคใหญ่จะจัดขึ้นหลังจากที่มีการเสนอชื่อผู้แทนพรรคที่จะลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการในราวเดือนกรกฎาคมและสิงหาคมเท่านั้น ด้านไมเคิล ไทเลอร์ โฆษกทีมรณรงค์หาเสียงของไบเดนระบุว่า เรื่องดังกล่าวจะเกิดขึ้นในเวลาที่เหมาะสม
การรีแมตช์ระหว่างทรัมป์วัย 77 ปี กับไบเดนวัย 81 ปี ถือการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐด้วยคู่ชิงหน้าเดิมครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1956 ซึ่งถือเป็นการแข่งขันที่ชาวอเมริกันเพียงไม่กี่คนต้องการเห็น โดยผลสำรวจความเห็นของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งสหรัฐระบุว่า ทั้งคู่ต่างมีคะแนนนิยมต่ำ
ที่มา มติชนออนไลน์
วันที่ 7 มีนาคม 2567