จับตา โมดี เข้าพบ ปูติน หวังปล่อยชาวอินเดียถูกหลอกไปรบ-มุ่งลดขาดดุลการค้า
นเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย เดินทางไปรัสเซีย เพื่อเข้าพบ นายวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย นับเป็นการเยือนครั้งแรกตั้งแต่สงครามยูเครน มุ่งแก้ไขการขาดดุลทางการค้าของประเทศ และปล่อยตัวชาวอินเดียที่ถูกหลอกไปทำสงคราม
จากการรายงานของรัฐบาลรัสเซียเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมาระบุว่า นายนเรนทรา โมดี (Narendra Modi) นายกรัฐมนตรีอินเดีย มีกำหนดการเข้าพบ วลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย เพื่อประชุมหารือในวันที่ 9 ในช่วงการเยือนรัสเซียในวันที่ 8-9 กรกฎาคมนี้
ทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซียเผยวาระการหารือว่าจะเกี่ยวกับการพัฒนาความสัมพันธ์เก่าแก่ให้มีขึ้นต่อไปในภายภาคหน้า ตลอดจนประเด็นที่เกี่ยวข้องกับประเด็นภูมิภาคและสถานการณ์ระหว่างประเทศ
การเยือนของนายกรัฐมนตรีอินเดียเกิดขึ้นตามกรอบการประชุมทวิภาคีของผู้นำประจำปีระหว่างสองประเทศ ซึ่งมีขึ้นเป็นประจำตั้งแต่ปี 2000 และเว้นห่างนับตั้งแต่นายปูติน เยือนอินเดียเมื่อปี 2021
การเยือนรัสเซียของโมดีครั้งนี้ เกิดขึ้นช่วงเดียวกันกับการประชุมสุดยอดผู้นำองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือ NATO (North Atlantic Treaty Organization) ในกรุงวอชิงตัน ระหว่างวันที่ 9-11 กรกฎาคมนี้ ซึ่งมีประเด็นหลักในการเจรจาเกี่ยวกับสงครามรัสเซีย-ยูเครน
สื่อหลายสำนักสนใจว่า อินเดียต้องการจะส่งสัญญาณอะไรบางอย่างหรือไม่ กับช่วงเวลาที่คาบเกี่ยวกันนี้
อย่างไรก็ตาม นายวิเนย์ โมฮัน ควาตรา (Vinay Kwatra) ปลัดกระทรวงการต่างประเทศอินเดีย ปฏิเสธความเชื่อมโยงระหว่างการเยือนรัสเซียของนายกรัฐมนตรีโมดีและวันประชุมนาโต ทั้งยังยืนยันอีกว่าเป็นเพียงการดำเนินงานตามความสำคัญลำดับก่อนหลัง
ที่ผ่านมา อินเดียสงวนท่าทีในการวิพากษ์วิจารณ์รัสเซียเกี่ยวกับการรุกรานยูเครน และเรียกร้องแต่ละประเทศแก้ไขข้อขัดแย้งด้วยการเจรจาและการทูตแทนการใช้กำลัง ขณะเดียวกันนั้นก็สั่งซื้อน้ำมันรัสเซียได้ในราคาถูกเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ นายควาตรา ปลัดกระทรวงการต่างประเทศอินเดีย ได้กล่าวถึงดุลการค้ากับรัสเซียที่เพิ่มขึ้นสูงมากในช่วงปี 2023-2024 ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมาจากภาคพลังงาน จากภาพรวมรัสเซียส่งออกให้อินเดีย 65,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.3 ล้านล้านบาท) แต่อินเดียส่งออกไปรัสเซียแค่ 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 1.4 แสนล้านบาท)
ฝ่ายอินเดียต้องการทำให้การค้าสองฝ่ายสมดุลมากขึ้น โดยจะส่งเสริมการส่งออกในหลายภาคส่วน เช่น การเกษตร เทคโนโลยี เภสัชกรรม และภาคบริการ หวังลดการขาดดุล
นอกจากนี้ ประเด็นการปล่อยตัวชาวอินเดียที่ถูกลวงให้ไปสู้รบในสงครามยูเครน ถือเป็นวาระสำคัญที่ถูกหยิบยกขึ้นหารืออันดับต้น ๆ ของนายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี
เนื่องจากในปีนี้ ปรากฏข้อเท็จจริงว่า มีชาวอินเดียหลายรายถูกล่อลวงไปยังรัสเซีย โดยได้รับสัญญาว่าจะมีงานหรือการศึกษาดี ๆ รออยู่ แต่กลับลงเอยด้วยการไปรบกับยูเครน ส่งผลให้ชาวอินเดียถูกสังหารในสงครามแล้วอย่างน้อย 4 คน
นักวิเคราะห์ต่างมองว่า การพบปะกันในครั้งนี้ เป็นผลดีต่อรัสเซียในการแสดงให้ชาติตะวันตกเห็นว่า รัสเซียไม่ได้โดดเดี่ยว แม้จะถูกคว่ำบาตรอย่างหนัก
และดีต่ออินเดีย ในการแสดงให้เห็นว่า รัสเซียไม่ได้เข้าข้างจีนมากเกินไป จากกรณีที่จีนและอินเดีย มีข้อพิพาทกันด้านพรมแดน
ทั้งนี้ นายโมดีเยือนรัสเซียครั้งหลังสุดคือ ปี 2019 ในงานประชุมทางเศรษฐกิจที่นครวลาดิวอสตอก เมืองท่าของรัสเซีย
อย่างไรก็ตาม โมดี และปูติน ยังคงพบหน้ากันอยู่เสมอในงานประชุมผู้นำ โดยพบกันหนหลังสุดในงานประชุมองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Cooperation Organization : SCO) เมื่อปี 2022 ที่ประเทศอุซเบกิสถาน
อินเดียมีความสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์กับรัสเซีย ย้อนไปสมัยสหภาพโซเวียต แต่ไปใกล้ชิดกับชาติตะวันตกมากขึ้นโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา ในช่วงไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา เนื่องจากอินเดียต้องการทำให้เศรษฐกิจเสรีและขยายความสัมพันธ์เชิงภูมิรัฐศาสตร์
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ
วันที่ 8 กรกฏาคม 2567