กลับมาจัดการแข่งขันอีกครั้ง กับมหกรรมการแข่งขันกีฬา “ซีเกมส์ 2021” ที่จะจัดขึ้น ณ ฮานอย ประเทศเวียดนาม

 

โดยจากเดิมที่จะจัดขึ้นในช่วงปลายปี 2564 แต่ด้วยสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ทำให้ต้องเลื่อนการแข่งขันออกไป ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-23 พฤษภาคม 2565 มีนักกีฬาจาก 11 ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เข้าร่วมการแข่งขัน

 

สำหรับเมืองที่ถูกเลือกให้จัดการแข่งขันซีเกมส์ 2021 ก็คือ “ฮานอย” เมืองหลวงของประเทศเวียดนาม

 

“ฮานอย” เป็นเมืองหลวงของเวียดนาม ที่มีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนาน ในอดีตเคยเป็นเมืองหลวงของพื้นที่เวียดนามในปัจจุบันเป็นครั้งคราวมาตั้งแต่สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 11 จนกระทั่งมาเป็นเมืองหลวงของเวียดนามเหนือ และกลายมาเป็นเมืองหลวงของประเทศเวียดนามในปัจจุบัน

 

นอกจากจะเป็นเมืองหลวงแล้ว ฮานอยยังเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดฮิตอีกแห่งหนึ่งของเวียดนาม มีแหล่งท่องเที่ยวหลายๆ แห่งที่เมื่อมาเยือนแล้วต้องไปเช็คอินกันสักครั้ง

 

มาดูกันว่า 10 จุดท่องเที่ยวยอดฮิตในฮานอยนั้นมีที่ไหนกันบ้าง

 

 

สุสานโฮจิมินห์ :

ตั้งอยู่บริเวณจัตุรัสบาดิงห์ อันเป็นจัตุรัสกลางเมืองที่ประธานาธิบดีโฮจิมินห์อ่านคำประกาศอิสรภาพเวียดนามจากฝรั่งเศสต่อหน้าชาวเวียดนามที่มาชุมนุมกันมากกว่า 500,000 คน เมื่อวันที่ 2 กันยายน ค.ศ.1945 สำหรับสุสานโฮจิมินห์ ตัวอาคารสร้างด้วยหินอ่อน หินแกรนิต และไม้มีค่าจากทั่วประเทศ หากมองจากด้านนอกเข้าไปแล้ว อาคารแห่งนี้ดูงดงามและขรึมขลัง ด้านในจะพบกับศพโฮจิมินห์ ซึ่งอาบน้ำยาอยู่ในโลงแก้วเพื่อให้ผู้คนที่เข้ามาชมได้รู้จักผู้นำที่มีความแข็งแกร่ง ทั้งนี้เป็นการกระทำซึ่งขัดต่อความต้องการของโฮจิมินห์ ที่ต้องการให้เผาร่างเมื่อตายลง ในสุสานยังมีทหารกองเกียรติยศในชุดเครื่องแบบเต็มยศสีขาวยืนถือดาบปลายปืนยืนรักษาการณ์อยู่ตลอดเวลา

 

 

วัดเจดีย์เสาเดียว :

นับว่าเป็นพุทธศาสนสถานที่สำคัญมากที่สุดแห่งหนึ่งของเวียดนามเลยก็ว่าได้ ถูกสร้างขึ้นมากว่า 600 ปีแล้ว เป็นศาลาขนาดเล็กตั้งอยู่บนเสาต้นเดียว ศาลานี้อยู่กลางสระบัวรูปสี่เหลี่ยม สร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาแด่เจ้าแม่กวนอิม โดยสมเด็จพระจักรพรรดิลี้ ท้าย ตง ฝันว่าเจ้าแม่กวนอิมได้ประทานลูกชายมาให้ จึงได้สร้างเจดีย์ขนาดเล็กที่ตั้งอยู่บนเสาต้นเดียวกลางสระบัวเพื่อถวายสักการะแด่เจ้าแม่กวนอิม ปัจจุบันจึงมีผู้นิยมมาขอบุตรที่เจดีย์แห่งนี้อยู่เสมอ

 

 

ทะเลสาบฮว่านเกี๊ยม :

หรือ “ทะเลสาบคืนดาบ” ตั้งอยู่กลางเมืองในพื้นที่เมืองเก่า ซึ่งเหตุที่ได้ชื่อว่าทะเลสาบคืนดาบนั้น ก็มีที่มาจากตำนานเล่าขานเกี่ยวกับการสร้างชาติเวียดนาม ว่า จักรพรรดิเล เหล่ย แห่งราชวงศ์เล ได้ใช้ดาบศักดิ์สิทธิ์ในการขับไล่ชาวจีนแห่งราชวงศ์หมิงที่รุกราน ให้ออกไปจากเวียดนาม ในขณะที่พระองค์ประทับบนเรือ ณ ทะเลสาบแห่งนี้ ก็มีตะพาบยักษ์ตัวหนึ่งโผล่ขึ้นมาจากผิวน้ำและบอกให้พระองค์ส่งดาบนั้นกลับคืนแด่จ้าวมังกร ดาบนั้นก็ได้พุ่งออกจากฝักดาบเข้าไปในปากของตะพาบก่อนที่จะหายกลับลงไปสู่ใต้ผิวน้ำ จึงเป็นที่มาของชื่อทะเลสาบคืนดาบแห่งนี้ ปัจจุบัน ทะเลสาบฮว่านเกี๊ยม หลายเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจของชาวฮานอยและนักท่องเที่ยว ยิ่งในช่วงเย็นๆ ก็จะมีผู้คนมานั่งเล่นพักผ่อนกัน บ้างก็มาวิ่งออกกำลังกาย มาเต้นแอโรบิก หรือมานั่งจิบกาแฟอยู่ริมทะเลสาบ เรียกว่าเป็นประหนึ่งสวนสาธารณะใจกลางเมืองเลยก็ว่าได้

 

 

วัดหง็อกเซิน :

ตั้งอยู่บนเกาะหยก กลางทะเลสาบฮว่านเกี๊ยม หากว่าอยากจะเข้าไปที่วัดก็ต้องข้ามสะพานไม้สีแดง ชื่อ “สะพานเทฮุก” หรือ “สะพานแสงอาทิตย์” เมื่อข้ามสะพานไปแล้วก็จะเป็นทางเข้าวัด ซึ่งภายในวัดแห่งนี้คนจะนิยมมาสักการะตะพาบยักษ์อันเป็นตำนานของทะเลสาบคืนดาบที่ถูกสต๊าฟเอาไว้ และสักการะอนุเสาวรีย์ตรันคว็อกตวน ผู้เป็นแม่ทัพเอกที่ต่อสู้ชนะทัพมองโกลถึงสามครั้ง และกลายมาเป็นหนึ่งในเทพเจ้าของชาวเวียดนาม

 

 

โรงละครหุ่นกระบอกน้ำ :

ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับ ทะเลสาบฮว่านเกี๊ยม ที่นี่แสดงละครหุ่นกระบอกน้ำเรื่องราวเกี่ยวกับวิถีชีวิตของชาวเวียดนามในสมัยก่อน และเรื่องราวเกี่ยวกับทะเลสาบคืนดาบให้ได้ชมกัน ความเป็นมาของละครหุ่นกระบอกน้ำนี้ ก็เนื่องจากว่าในสมัยก่อนบริเวณพื้นที่ราบลุ่มต่ำจะมีน้ำท่วมทุกปี ชาวไร่ชาวนาที่ไม่มีอะไรทำในช่วงน้ำท่วมนี้ก็จับหุ่นละครมาเชิดกันในน้ำ ซึ่งเมื่อเรามานั่งดูละครหุ่นกระบอกน้ำ ก็ต้องทึ่งกับความสามารถของคนเชิดหุ่นที่ยืนอยู่หลังมู่ลี่ไม้ไผ่ ใช้การบังคับหุ่นจากไม้ยาวๆ ทำให้หุ้นแต่ละตัวดูมีชีวิตชีวา มีอารมณ์ไปกับการแสดงในแต่ละตอน และถึงแม้ว่าจะฟังภาษาเวียดนามไม่รู้เรื่อง แต่ภาษากายและดนตรีที่แสดงประกอบไปในแต่ละท่วงท่านั้นก็ทำให้คนดูสามารถเข้าใจสิ่งที่จะสื่อออกมาได้

 

 

เจดีย์เฉินก๊วก :

อีกหนึ่งสัญลักษณ์ของฮานอย ตั้งอยู่ใกล้ชิดกับทะเลสาบตะวันตก เป็นหนึ่งในเจดีย์ที่เก่าแก่ที่สุดในฮานอย มีอายุเกือบ 1,500 ปี สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ลี้ ลักษณะของเจดีย์มีความงดงามมาก และสร้างขึ้นตามขนบของสถาปัตยกรรมทางพุทธศาสนา สามารถมองเห็นเจดีย์ทรงสูงสีแดงแห่งนี้ได้อย่างชัดเจน

 

 

วิหารวรรณกรรม :

หรือที่เรียกว่า “วันเหมียว” เป็นวิหารที่ถูกสร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับเหล่าขงจื้อ ใช้สำหรับเป็นโรงเรียนของเหล่าขุนนาง ต่อมาเป็นมหาวิทยาลัยแห่งชาติแห่งแรกของเวียดนาม และยังเป็นสถานที่ใช้สอบจอหงวนในสมัยโบราณ หลังจากที่เมืองหลวงย้ายไปจากฮานอยที่นี่ก็ไม่ได้ใช้งานอีก บริเวณโดยรอบมีบ่อน้ำ และต้นไม้ใหญ่เขียวชอุ่ม ศาลเทพเจ้าขงจื้อ ซึ่งมีการวางแผนผังมาอย่างดี และภายในวิหารจะมีแผ่นหินจารึกชื่อจอหงวน ปัจจุบันคนเวียดนามนิยมมาขอพรเรื่องการเรียนและการสอบ

 

 

อาสนวิหารเซนต์โจเซฟ :

เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กของฮานอยที่คนนิยมไปถ่ายรูปกัน มีความโดดเด่นด้วยการก่อสร้างในสไตล์นีโอกอธิค สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 19 หลังจากที่ฝรั่งเศสได้เข้ามายึดครองเวียดนามได้ไม่นาน โดยมีต้นแบบมาจากมหาวิหารน็อทร์-ดามในกรุงปารีส เป็นโบสถ์สำคัญของเมืองฮานอยที่ยังคงมีการประกอบพิธีกรรมทางศาสนามาจนถึงปัจจุบัน

 

 

วิหารกวานแท่ญ :

วัดศักดิ์สิทธิ์คู่เมือง และเป็นวัดหนึ่งที่เก่าแก่เป็นอันดับต้นๆ ของฮานอย ตั้งอยู่ริมทะเลสาบด้านตะวันตก ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ ค.ศ 16 เป็นวัดลัทธิเต๋าที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นวิหารบูชาเทพเจ้าเตริ่นหวู่ เทพเจ้าประจำทิศเหนือ หนึ่งในเทพเจ้าประจำทิศทั้งสี่ เพื่อให้เทพเจ้าคอยปกป้องคุ้มครองและคอยป้องกันภัยจากสิ่งชั่วร้ายในทางทิศเหนือ

 

 

ถนน 36 สาย :

ถนนชอปปิงยอดฮิตในฮานอย ที่นี่เป็นย่านเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงด้านงานหัตถกรรมและสินค้าพื้นเมือง มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 600 ปี ชื่อของถนน 36 สาย มาจาก 36 อาชีพเก่าแก่ที่ทำมาหากินกันในแถบนี้ สินค้าที่มีขายก็มีทั้งเสื้อผ้า เครื่องประดับ ของกิน ของที่ระลึก โดยถนนแต่ละสายก็จะขายของต่างกัน อย่างเช่นถนนเสื้อผ้า ก็จะมีแต่เสื้อผ้าตลอดทั้งสาย

 

ที่มา ผู้จัดการออนไลน์

วันที่ 11 พฤษภาคม 2565