ศึกความงามเอเชีย เมื่อ C-Beauty บุกตลาดโลก และ Thai Beauty พร้อมท้าชิง!
แบรนด์เครื่องสำอางจีนรุ่นใหม่ที่ขับเคลื่อนธุรกิจผ่านช่องทางดิจิทัลที่กำลังเข้ามามีบทบาทในตลาดความงามที่เติบโตอย่างรวดเร็ว แบรนด์เหล่านี้ถือกำเนิดขึ้นจากกระแสบนสื่อสังคมออนไลน์ มีความเข้าใจในพฤติกรรมผู้บริโภครุ่นใหม่ มีมุมมองทางธุรกิจระดับสากล และมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนภาพลักษณ์ของสินค้าที่ผลิตในจีนให้เป็นที่ยอมรับในระดับโลก อีกทั้งยังสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงของทัศนคติของผู้บริโภคที่มีต่อสินค้า “Made in China” ที่ในอดีตภาพลักษณ์ของสินค้าจีนมักได้รับผลกระทบจากกรณีที่เกี่ยวกับความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในปัจจุบันเริ่มเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น และผู้บริโภคยังระบุว่า ความนิยมในซีรีส์จีนและวัฒนธรรมสมัยนิยมของจีนที่เพิ่มขึ้น ส่งผลโดยตรงต่อความสนใจในสินค้าเครื่องสำอางจากจีน โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับสินค้าจากประเทศตะวันตก
แบรนด์เครื่องสำอางจีนยุคใหม่ที่เติบโตจากโลกออนไลน์มีความเชี่ยวชาญในการสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดีย แตกต่างจากแบรนด์จีนดั้งเดิมที่เน้นการจำหน่ายผ่านหน้าร้านและมุ่งตอบสนองความต้องการในประเทศเป็นหลัก ซึ่งบริษัท Joy Group เปิดเผยว่า บริษัทเป็น กลุ่มแรกของแบรนด์ C-beauty ที่ถือกำเนิดขึ้นจากโลกอินเทอร์เน็ตและเริ่มต้นขายผ่านแพลตฟอร์ม E-Commerce อย่าง Taobao และมีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษด้านการทำตลาดผ่านโซเชียลมีเดีย สามารถสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่ตอบโจทย์ทั้งผู้บริโภคในประเทศและต่างประเทศ และยังสามารถปรับเนื้อหาให้สอดคล้องกับความต้องการของแต่ละตลาดได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ถือเป็นหมวดสินค้าที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการนำเสนอผ่านครีเอเตอร์และอินฟลูเอนเซอร์บนโลกออนไลน์ เนื่องจากเป็นสินค้าที่เห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจนจาก “ความแตกต่างก่อนและหลังใช้” ซึ่งช่วยดึงดูดความสนใจจากผู้ชมได้เป็นอย่างดี

ความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคกำลังเปิดทางให้ แบรนด์เครื่องสำอางสัญชาติจีน หรือ C-beauty เข้าถึงตลาดต่างประเทศได้มากขึ้น ไม่เพียงแต่ผ่านช่องทางออนไลน์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงร้านค้าปลีกทั่วไปที่ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อสินค้าได้สะดวกยิ่งขึ้น จากเดิมที่นักช้อปที่มีประสบการณ์อาจต้องพึ่งพาการสั่งซื้อผ่าน Taobao หรือบริการช้อปปิ้งข้ามพรมแดน ปัจจุบันผู้บริโภคมีทางเลือกที่หลากหลายมากขึ้นจากร้านค้าในสิงคโปร์
ตลาดสิงคโปร์ถือเป็นหนึ่งในศูนย์กลางสินค้าความงามที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมสูง และมีผู้บริโภครุ่นใหม่ที่เปิดรับนวัตกรรมและเทรนด์ความงามอย่างรวดเร็ว ความต้องการสินค้าที่มีคุณภาพดี ราคาจับต้องได้ และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคกลุ่มนี้ส่งผลให้ตลาดสิงคโปร์เป็นโอกาสสำคัญสำหรับแบรนด์เครื่องสำอางต่างประเทศที่ต้องการขยายตลาด โดยแบรนด์จำเป็นต้องเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภค รวมถึงการปรับกลยุทธ์การตลาดให้เหมาะสมกับความต้องการและวัฒนธรรมท้องถิ่น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในปัจจุบัน แบรนด์เครื่องสำอางไทยหลายราย อาทิ Mistine, 4U2, BROWIT by Nongchat และ Cathy Doll ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในตลาดสิงคโปร์ สะท้อนถึงศักยภาพของแบรนด์ไทยในการสร้างความแตกต่างและความน่าสนใจในตลาดต่างประเทศ ซึ่งแบรนด์ไทยมีจุดแข็งในการผสานความเป็นไทยเข้ากับนวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านความงามที่ตอบโจทย์ผู้บริโภครุ่นใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การใช้ช่องทางดิจิทัลและการร่วมมือกับอินฟลูเอนเซอร์จะเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยขยายการรับรู้และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย นอกจากนี้ การศึกษาข้อกำหนดและมาตรฐานของตลาดสิงคโปร์อย่างละเอียด รวมถึงการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายที่เหมาะสม จะช่วยให้แบรนด์เครื่องสำอางไทยสร้างฐานลูกค้าที่มั่นคงและเติบโตได้อย่างยั่งยืนในตลาดสิงคโปร์ได้เป็นอย่างดี (ข้อมูล: สถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์, เรียบเรียงโดย: ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์)
ที่มา globthailand
วันที่ 9 ตุลาคม 2568